ฝรั่งเศสเจอโควิด-19ระบาดระลอกใหม่

ปารีส, 24 ก.ค. (ซินหัว) — ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ชั้นนำของรัฐบาลฝรั่งเศสชี้ว่าฝรั่งเศสอาจไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติหลังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้จนกว่าจะถึงปี 2022 หรือปี 2023 เนื่องจากเกิดโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่แพร่เชื้อง่าย

“เรายังไม่สามารถกลับสู่สภาวะปกติได้ในตอนนี้ อาจเป็นในปี 2022 หรือ 2023 เนื่องจากเราอาจเผชิญโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ ในช่วงฤดูหนาว เชื้อไวรัสฯ ชนิดนี้มีความสามารถในการกลายพันธุ์ที่ไม่ธรรมดา” ฌอง-ฟรองซัว เดลเฟรซซี หัวหน้าสภาวิทยาศาสตร์กล่าว

เดลเฟรซซีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีเอฟเอ็มทีวี (BFMTV) ว่าจำนวนผู้ป่วยรายวันจะสูงถึงราว 50,000 ราย ภายในต้นเดือนสิงหาคม และการระบาดระลอกที่ 4 จะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลในประเทศช่วงครึ่งหลังของเดือนหน้า

“การติดเชื้ออยู่ในระดับสูงมาก เนื่องจากเราพบสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่แพร่เชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้มาก ดังนั้นเราจำเป็นต้องกลับไปดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น ล้างมือหรือสวมหน้ากากอนามัยกลางแจ้งในที่ที่มีคนพลุกพล่าน”

ขณะนี้โรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (Delta) ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดีย กลายเป็นสายพันธุ์หลักในฝรั่งเศส และก่อให้เกิดการระบาดระลอกที่ 4 โดยเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.ค.) ฝรั่งเศสตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ 21,909 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ป่วยใหม่รายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.

ด้านรัฐบาลฝรั่งเศสเสนอมาตรการเข้มงวดสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโดยการปรับใช้บัตรสุขภาพและบังคับบุคลากรการแพทย์เข้ารับวัคซีน เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของสายพันธุ์เดลตา

เมื่อวันศุกร์ (23 ก.ค.) สมัชชาแห่งชาติ (National Assembly) ซึ่งเป็นสภาล่างของฝรั่งเศส ประกาศลงนามรับรองร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งระบุว่าบุคลากรการแพทย์และนักดับเพลิงจะถูกคว่ำบาตรหากไม่เข้ารับวัคซีน

ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าชมสถานที่ทางวัฒนธรรมหรือไปเที่ยวสวนสนุก สระว่ายน้ำ และสถานที่ออกกำลังกาย จำเป็นต้องแสดงใบรับรองที่พิสูจน์ว่าพวกเขาได้รับวัคซีน หายป่วยจากโรค หรือมีผลตรวจเป็นลบเมื่อไม่นานนี้ และตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ประชาชนทุกคนจำเป็นต้องแสดงบัตรสุขภาพก่อนเข้าร้านอาหารและบาร์ รวมถึงการเดินทางระยะไกลด้วยรถไฟและเครื่องบิน

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายใหม่ดังกล่าวถูกส่งผ่านไปยังวุฒิสภาแล้ว และมีกำหนดอนุมัติขั้นสุดท้ายในช่วงสุดสัปดาห์นี้