ก้าวไกล ต้องขอบคุณ เพื่อไทย
บทความพิเศษ
เหมือนถูกหลอกให้เปิดหน้าไพ่ หลังจากพรรคเพื่อไทยเร่งรีบเจรจาทางการเมืองกับพรรคการเมืองต่างขั้วและสมาชิกวุฒิสภา(สว.) เพื่อการจัดตั้งรัฐบาล สุดท้ายพรรคเพื่อไทยต้องยอมถูกด่าทั้งประเทศต่อการฉีกMOU 8 พรรค ถีบทิ้งพรรคก้าวไกล ด้วยเหตุผลต้องการ “เริ่มต้นใหม่ผ่าทางตันหาทางออกให้ประเทศ”
เสียงด่าพรรคเพื่อไทยว่าเสียเกียรติ เสียศักดิ์ศรีของพรรคการเมืองที่มีแนวทางต่อสู้เผด็จการ ยอมกลืนน้ำลายตัวเองมาประกาศว่า “พรรคเพื่อไทย และ นายเศรษฐา ทวีสิน ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112” ทั้งๆที่หาเสียงบนเวทีมาตลอด พูดออกสื่อเป็นหลักเป็นฐานว่าจำเป็นต้องแก้ไข มาตรา 112
คำแถลงของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่โยนความผิดให้พรรคก้าวไกลว่าไม่ยอมปรับเปลี่ยนนโยบายแก้ มาตรา 112 จึงจำเป็นถอนตัวจากการร่วมมือกัน และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ อาจจะมีเอฟซีพันธุ์แท้ของเพื่อไทยส่งเสียงขานรับ แต่ก็เห็นชัดว่าสามารถระดมข้อตำหนิติเตียนจากสุภาพชนและเสียงบริภาษอย่างหยาบคายมาได้ทั่วทุกช่องทางสารทิศ โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดียที่ออกกันมาอย่างพร้อมหน้า
แม้พรรคเพื่อไทยยืนยันจะทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ในภารกิจที่สำคัญ จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแล้วรีบคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แต่ยามนี้ใครจะเชื่อน้ำคำ เมื่อได้ทิ้งโอกาสทองในการจับมือกับพรรคก้าวไกลเพื่อสร้างประชาธิปไตยเต็มไป แล้วหันกลับเลือกไปเกลือกกลั้วกับฝ่ายเผด็จการและทุนนิยมผูกขาด
2เดือนหลังการเลือกตั้ง คนชนะกลับเป็นฝ่ายแพ้ คนแพ้ได้จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองหน้าเดิมๆ อย่างไรก็ตามแทนที่จะมานั่งด่าพรรคเพื่อไทย ความจริงต้องขอบคุณเขา โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทย
เพราะเกมนี้ได้พิสูจน์ธาตุแท้นักการเมืองทุกคนทุกพรรค ที่เคยแสดงความคิด อุดมการณ์ ผลประโยชน์ คำมั่นสัญญากับประชาชน
พรรคก้าวไกลถูกสส.และสว.โจมตีหนักเรื่องจะแก้ไข ม.112 ถ้าแค่หยุดนโยบายนี้เพื่อเดินหน้าอีก 299 นโยบาย แลกกับการให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ก้าวไกลได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ก็จะได้เสียงสว. แต่ก้าวไกลเลือกไม่ยอม
ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ที่รับไม้ต่อจากก้าวไกล เรียกพรรคการเมืองขั้วตรงข้ามไม่นั่งดื่มมิลค์ช็อก อาศัยปากคนอื่นไล่ก้าวไกล สุดท้ายกล้าฉีกMOU ถีบก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน หรืออย่างป๋า เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ก้าวไกลให้เกียรติเชิญเข้าร่วมรัฐบาลแม้จะได้แค่ 1 เสียง ที่พิธาบอกว่าเป็นนักการเมืองตัวอย่าง แต่กลับด่า “ด้อมส้ม”แค่เด็กเมื่อวานซืน ด่าก้าวไกลว่าเป็นสาเหตุตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ
มีข้อน่าสังเกตมากว่าหลังจากหมอชลน่านแถลงจบในวันที่ 2 สิงหาคม 2566 เกิดปรากฏการณ์ “เผาเสื้อแดง” โดยคนเสื้อแดงหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่ออกมาแสดงความผิดหวัง ผู้สูงอายุหลายคนในต่างจังหวัดที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ พากันหยิบเสื้อแดง เอาปฏิทินที่มีรูปอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ออกมาเผา พร้อมคำประกาศเลิกคบ
หญิงเสื้อแดงคนหนึ่งที่เคยนิยมพรรคเพื่อไทยตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคไทยรักไทย เคยออกมาร่วมต่อสู้ในหลายเวทีได้ตั้งคำถามว่า “สู้เพื่ออะไร” เมื่อเห็นว่ามีพฤติกรรมโกหกประชาชน อุดมการณ์ที่บอกให้ยึดหลักการไม่ใช่ความจริง กำลังทำลายอนาคตทำลายความหวังของคนเสื้อแดง “เจ็บปวดยิ่งกว่าผัวมีชู้”
ในโซเชียลมีเดียมีแซวผู้นำพรรคเพื่อไทยที่เคยประกาศปิดสวิตช์ 3 ป. ว่าสำเร็จแล้วคือ ประชาชน ประชาธิปไตย ประเทศไทย
พรรคก้าวไกลต้องขอบคุณเพื่อไทยที่ให้โอกาสทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อในสภา เพราะ4 ปีที่ผ่านมาประชาชนประทับใจบทบาทพรรคก้าวไกลในสภาว่าทำหน้าที่ได้ดี ทำการบ้านเยี่ยม มีผลงานชัดเจน แม้ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลก็สามารถแฉข้อมูลการทุจริตคอรัปชั่นได้ดีกว่าฝ่ายรัฐบาลเสียอีก ดังนั้นการเป็นฝ่ายค้านอีก 4 ปี เท่ากับมีเวลาลับฝีมือให้คมยิ่งขึ้น จะมีวัยวุฒิมากขึ้นไม่ให้ถูกปรามาสว่าเป็นแค่แก๊งเด็กเมื่อวานซืน ขาดวุฒิภาวะ
สำคัญที่สุดคือพรรคก้าวไกลจะมีเวลาทำความเข้าใจกับสังคมไทยให้เป็นที่ยอมรับถึงเหตุผลในการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112
พรรคก้าวไกลควรจะยินดีดีที่ไม่ต้องเป็นรัฐบาลตอนนี้ เพราะอันตรายยิ่งนัก เหนื่อยหนัก เพราะแม้จะมีเสียงอันดับ 1 แต่ไม่ใช่ข้างมากเด็ดขาด หากร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยที่อ้างว่าห่างกันแค่ 10 เสียง ย่อมถูกต่อรองทุกด้าน ยิ่งหากมีพวกเขี้ยวลากดินเข้ามาร่วมในคณะรัฐมนตรี หรือมีพฤติกรรมโกงกินที่อาจจะทำให้พรรคก้าวไกลกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ลองคิดดูว่าถ้าพิธาเป็นนายก แล้วทันทีที่ตั้งรัฐบาลเสร็จ ทักษิณกลับบ้าน เพื่อไทยต่อรองลดโทษหรือนิรโทษกรรมแบบรวบรัด ก้าวไกลจะทำยังไง
อยากจะบอกว่าในเกมนี้ก้าวไกลไม่ขาดทุนเลย เกมนี้กำไรชัดๆ เพราะก่อนเลือกตั้งคงไม่คาดหวังจะมาอันดับ 1 หลังเลือกตั้งผ่านมา 2 เดือน พรรคก้าวไกลได้หาเสียงเพิ่มขึ้น ดูเหมือนจะแพ้แต่ชนะใจคนดูได้ใจประชาชน ได้คะแนนเสียงเพิ่มมาอีกเยอะแม้จะไม่มีการหย่อนบัตร แต่คนนับล้านได้ “เทใจ”ให้นักการเมืองรุ่นใหม่ที่เขาเชื่อว่าจะเติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น ฝากความหวังในอนาคตได้
ในโซเชียลมีเดียมีผู้ออกมาแสดงความชื่นชมพรรคก้าวไกลว่า เกิดมาเพิ่งได้พบพรรคการเมืองแบบนี้ที่รักษาหลักการและคำมั่นสัญญาที่มีต่อประชาชน เคยเห็นแต่นักการเมืองที่พร้อมพลิกลิ้น กลืนน้ำลายเพียงเพื่อผลประโยชน์ เพียงเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล หรือพร้อมยกมือตามคำสั่งผู้บงการ
อนาคตอันใกล้เป็นไปได้ว่าการเมืองขั้วตรงข้ามยังไม่หยุดโจมตี พิธายังไม่พ้นถูกตัดสิทธิสส.และต้องเว้นวรรคการเมือง พรรคก้าวไกลอาจโดนยุบพรรคตามรอยอนาคตใหม่ แต่อุดมการณ์ของคนหนุ่มสาวจะไม่ตาย จะเกิดพรรคใหม่มาสานต่อ อุดมการณ์ประชาธิปไตยจะยิ่งขยายตัว
การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่จบ คุณพ่อทักษิณยังไม่กลับบ้าน กลเกมการเมืองยังชวนให้ติดตามยิ่งนัก