08/05/2024

ลดหย่อนภาษีสร้างบ้าน ข้อเสนอรัฐบาลชุดใหม่

 

สัมภาษณ์พิเศษ

โอฬาร จันทร์ภู่

นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน

 

สิ่งที่คาดหวังจากรัฐบาลใหม่

อยากให้คนที่เซ็นสัญญาสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านได้ลดหย่อนภาษีเพิ่ม  ไม่จำเป็นต้องกู้ก็ได้ลดหย่อนภาษี  ทุกวันนี้บริษัทจดทะเบียนที่เป็นนิติบุคคลเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน  เวลาเซ็นสัญญารับสร้างบ้านนั้นกฎหมายบังคับไว้ว่าต้องติดอากรแสตมป์ 1,000 บาท ต่อมูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านเป็นผู้ออกค่าอากรแสตมป์  ซึ่งกรมสรรพากรจะใช้ อ.ส.4 ตรงนี้ไปคำนวนภาษีได้ว่าแต่ละปีบริษัทก่อสร้างบ้านรายไหนจะต้องเสียภาษีเท่าไร

ดังนั้นหากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบภาษีนิติบุคคลและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในการขอลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลด้วย  เช่น 10,000 บาทต่อมูลค่า 1 ล้านบาท หรือไม่เกิน 100,000 บาท  เป็นการกระตุ้นผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง  โดยทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเตรียมยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ให้พิจารณาเรื่องการลดหย่อนภาษีการสร้างบ้าน

 

 

ธุรกิจรับสร้างบ้าน  หรือธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนั้นไม่ได้ตอบโจทย์อยู่ที่คนกลุ่มเดียวแต่จะส่งผลกระจายไปในวงกว้าง  ทั้งผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง  เหล็ก ปูน หิน ทราย  ประตู หน้าต่าง  แรงงาน  อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์  คนงานก่อสร้าง ฯลฯ  ซึ่งต่างก็รู้ข้อเท็จจริงอยู่แล้วว่าวงการอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้ว

โดยส่วนตัวนั้นเชื่อมั่นในพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศ  หากเรามีรัฐบาลที่ดีหลังจากการเลือกตั้งประเทศไทยเราจะไปได้ไกล

 

“สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเตรียมยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่”

 

พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบัน

ปีที่ผ่านมาช่วงพ้นโควิดใหม่ๆความต้องการสร้างบ้านมากกว่าช่วงนี้  ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ความต้องการสร้างบ้านกลับมาสูงมากเพราะอั้นมานาน  ช่วงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นหลังใหญ่มูลค่า 10-20 ล้านบาท  คงเพราะเป็นกลุ่มมีรายได้ มีศักยภาพในการสร้างบ้าน  เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและบริษัทรับสร้างบ้านก็มีการกระตุ้นยอดขายแม้ธนาคารพาณิชย์จะยังไม่กลับมาปล่อยสินเชื่อเต็มรูปแบบเหมือนเดิม

แต่ในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 กลายเป็นว่าธนาคารพาณิชย์กลับมารุกตลาดประกาศปล่อยสินเชื่อบ้านทุกประเภท  ทั้งๆที่สวนกับความเป็นจริงว่าดอกเบี้ยเพิ่ม  เงินเฟ้อสูง  ช่วงเดือนมีนาคม 2566แม้จำนวนบ้านสั่งสร้างจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนตุลาคม 2565  แต่ยอดจองไม่ได้มากกว่า  สะท้อนว่าคนหันมาสร้างบ้านหลังเล็กมากขึ้น  ยอดสร้างบ้านระดับราคา 3-7 ล้านบาทเยอะมาก  อีกระดับคือ5-10 ล้านบาท  มากกว่าบ้านหลังใหญ่ที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป

 

 

วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค

หลังโควิดรูปแบบของบ้านมีความเปลี่ยนแปลง  อาทิ ระบบถ่ายเทอากาศและฟอกอากาศ  ที่จอดรถ 2 คันไม่พอแล้ว  เดี่ยวนี้ต้อง 3 -4 คัน  ต้องมีห้องทำงานเพื่อตอบโจทย์ Work from Home ทั้งออนไซต์และออนไลน์  ห้องผู้สูงอายุชั้นล่าง  ประตูหน้าต่างๆสูง ฝ้าสูง เพื่อความลักชัวรี่  ความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น  ความเป็นสมาร์ทเฮ้าส์ที่อาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล  กล้องวงจรปิด  ความพร้อมที่จะรับรถEV   หรือแม้แต่ระบบโซลาลูฟท็อปซึ่งทางสมาคมฯกำลังร่วมกับกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทำโครงการบ้านประหยัดพลังงานเบอร์ 5 สำหรับแบบบ้านประหยัดพลังงาน  ซึ่งจะเชื่อมโยงกับการให้สินเชื่ออัตราพิเศษ

 

การแข่งขันในตลาดเป็นอย่างไร

บ้านสั่งสร้างมีหลายระดับราคา ถ้าเป็นระดับลักชั่วรี่ 10 ล้านบาทขึ้นไปไม่ได้แข่งขันกันมากนัก  จะแข่งกันที่คุณภาพงานเรื่องของแบรนด์  มีผลงานที่ไว้ใจได้และความน่าเชื่อถือ  ในกลุ่มราคา 2-5 ล้านบาท มีการแข่งขันมาก  เช่นเดียวกับระดับ 5-10 ล้านบาทที่หากแข่งกันมากทางสมาคมฯจะกังวลในด้านคุณภาพงาน  ผู้บริโภคนั้นจะดูที่ราคาเป็นหลัก  หากพิจารณาเปรียบเทียบผู้รับเหมาไม่ดีก็อาจจะเจองานที่ไม่ได้มาตรฐานหรือโดนผู้รับเหมาทิ้งงาน

จึงอยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน  ใช้สัญญาจ้างสร้างบ้านที่เป็นสัญญามาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ที่มีรายละเอียดที่ช่วยควบคุมและปกป้องผู้บริโภค

ก่อนเกิดโควิดและช่วงโควิดนั้นไม่มีปัญหาการทิ้งงานเลย  หรือน้อยมาก  แต่พอสถานการณ์กลับสู่ปกติแล้วคาดว่าผลกระทบจะมาออกในปีนี้  เพราะสังเกตเห็นบ้านหลังเล็กเริ่มฟันราคากันแล้ว  สัญญาณอาจจะเริ่มจากความล่าช้าเพราะเหตุคนงานขาดแคลน  ทั้งคนงานไทยและคนงานต่างประเทศ   ประกอบกับราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น  บริษัทรับเหมาที่อยู่นอกสมาคมฯหากบริหารจัดการไม่ดีอาจจะมีโอกาสทิ้งงานมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2  แต่คงไม่รุนแรงมาก

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *