ลดหย่อนภาษีสร้างบ้าน ข้อเสนอรัฐบาลชุดใหม่
สัมภาษณ์พิเศษ
โอฬาร จันทร์ภู่
นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
สิ่งที่คาดหวังจากรัฐบาลใหม่
อยากให้คนที่เซ็นสัญญาสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านได้ลดหย่อนภาษีเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องกู้ก็ได้ลดหย่อนภาษี ทุกวันนี้บริษัทจดทะเบียนที่เป็นนิติบุคคลเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เวลาเซ็นสัญญารับสร้างบ้านนั้นกฎหมายบังคับไว้ว่าต้องติดอากรแสตมป์ 1,000 บาท ต่อมูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งบริษัทรับสร้างบ้านเป็นผู้ออกค่าอากรแสตมป์ ซึ่งกรมสรรพากรจะใช้ อ.ส.4 ตรงนี้ไปคำนวนภาษีได้ว่าแต่ละปีบริษัทก่อสร้างบ้านรายไหนจะต้องเสียภาษีเท่าไร
ดังนั้นหากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบภาษีนิติบุคคลและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในการขอลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลด้วย เช่น 10,000 บาทต่อมูลค่า 1 ล้านบาท หรือไม่เกิน 100,000 บาท เป็นการกระตุ้นผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง โดยทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเตรียมยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ให้พิจารณาเรื่องการลดหย่อนภาษีการสร้างบ้าน
ธุรกิจรับสร้างบ้าน หรือธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนั้นไม่ได้ตอบโจทย์อยู่ที่คนกลุ่มเดียวแต่จะส่งผลกระจายไปในวงกว้าง ทั้งผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง เหล็ก ปูน หิน ทราย ประตู หน้าต่าง แรงงาน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ คนงานก่อสร้าง ฯลฯ ซึ่งต่างก็รู้ข้อเท็จจริงอยู่แล้วว่าวงการอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่แล้ว
โดยส่วนตัวนั้นเชื่อมั่นในพื้นฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศ หากเรามีรัฐบาลที่ดีหลังจากการเลือกตั้งประเทศไทยเราจะไปได้ไกล
“สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเตรียมยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่”
พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบัน
ปีที่ผ่านมาช่วงพ้นโควิดใหม่ๆความต้องการสร้างบ้านมากกว่าช่วงนี้ ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ความต้องการสร้างบ้านกลับมาสูงมากเพราะอั้นมานาน ช่วงนั้นส่วนใหญ่จะเป็นหลังใหญ่มูลค่า 10-20 ล้านบาท คงเพราะเป็นกลุ่มมีรายได้ มีศักยภาพในการสร้างบ้าน เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและบริษัทรับสร้างบ้านก็มีการกระตุ้นยอดขายแม้ธนาคารพาณิชย์จะยังไม่กลับมาปล่อยสินเชื่อเต็มรูปแบบเหมือนเดิม
แต่ในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 กลายเป็นว่าธนาคารพาณิชย์กลับมารุกตลาดประกาศปล่อยสินเชื่อบ้านทุกประเภท ทั้งๆที่สวนกับความเป็นจริงว่าดอกเบี้ยเพิ่ม เงินเฟ้อสูง ช่วงเดือนมีนาคม 2566แม้จำนวนบ้านสั่งสร้างจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนตุลาคม 2565 แต่ยอดจองไม่ได้มากกว่า สะท้อนว่าคนหันมาสร้างบ้านหลังเล็กมากขึ้น ยอดสร้างบ้านระดับราคา 3-7 ล้านบาทเยอะมาก อีกระดับคือ5-10 ล้านบาท มากกว่าบ้านหลังใหญ่ที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป
วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค
หลังโควิดรูปแบบของบ้านมีความเปลี่ยนแปลง อาทิ ระบบถ่ายเทอากาศและฟอกอากาศ ที่จอดรถ 2 คันไม่พอแล้ว เดี่ยวนี้ต้อง 3 -4 คัน ต้องมีห้องทำงานเพื่อตอบโจทย์ Work from Home ทั้งออนไซต์และออนไลน์ ห้องผู้สูงอายุชั้นล่าง ประตูหน้าต่างๆสูง ฝ้าสูง เพื่อความลักชัวรี่ ความเป็นโมเดิร์นมากขึ้น ความเป็นสมาร์ทเฮ้าส์ที่อาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล กล้องวงจรปิด ความพร้อมที่จะรับรถEV หรือแม้แต่ระบบโซลาลูฟท็อปซึ่งทางสมาคมฯกำลังร่วมกับกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทำโครงการบ้านประหยัดพลังงานเบอร์ 5 สำหรับแบบบ้านประหยัดพลังงาน ซึ่งจะเชื่อมโยงกับการให้สินเชื่ออัตราพิเศษ
การแข่งขันในตลาดเป็นอย่างไร
บ้านสั่งสร้างมีหลายระดับราคา ถ้าเป็นระดับลักชั่วรี่ 10 ล้านบาทขึ้นไปไม่ได้แข่งขันกันมากนัก จะแข่งกันที่คุณภาพงานเรื่องของแบรนด์ มีผลงานที่ไว้ใจได้และความน่าเชื่อถือ ในกลุ่มราคา 2-5 ล้านบาท มีการแข่งขันมาก เช่นเดียวกับระดับ 5-10 ล้านบาทที่หากแข่งกันมากทางสมาคมฯจะกังวลในด้านคุณภาพงาน ผู้บริโภคนั้นจะดูที่ราคาเป็นหลัก หากพิจารณาเปรียบเทียบผู้รับเหมาไม่ดีก็อาจจะเจองานที่ไม่ได้มาตรฐานหรือโดนผู้รับเหมาทิ้งงาน
จึงอยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการของบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ใช้สัญญาจ้างสร้างบ้านที่เป็นสัญญามาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ที่มีรายละเอียดที่ช่วยควบคุมและปกป้องผู้บริโภค
ก่อนเกิดโควิดและช่วงโควิดนั้นไม่มีปัญหาการทิ้งงานเลย หรือน้อยมาก แต่พอสถานการณ์กลับสู่ปกติแล้วคาดว่าผลกระทบจะมาออกในปีนี้ เพราะสังเกตเห็นบ้านหลังเล็กเริ่มฟันราคากันแล้ว สัญญาณอาจจะเริ่มจากความล่าช้าเพราะเหตุคนงานขาดแคลน ทั้งคนงานไทยและคนงานต่างประเทศ ประกอบกับราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น บริษัทรับเหมาที่อยู่นอกสมาคมฯหากบริหารจัดการไม่ดีอาจจะมีโอกาสทิ้งงานมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2 แต่คงไม่รุนแรงมาก