ศาลรธน.สั่งยุบพรรคก้าวไกล
วันนี้เวลา 15.00 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ยื่นคําร้องว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความผิดถึงขั้นยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรค
สรุปสาระสำคัญคำวินิจฉัยได้ว่า พรรคก้าวไกลมีการกระทำต่อเนื่องหลายพฤติการณ์ที่เป็นการลดทอนคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ใช้การเสนอแก้ไขมาตรา 112 ในประมวลกฎหมายอาญาเป็นนโยบายในการหาเสียง การรณรงค์ การแสดงความคิดเห็นบนเวทีปราศรัยต่างๆ หากปล่อยให้ทำต่อไป ย่อมไม่ไกลเกินเหตุที่นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว แม้ภายหลังจะมีการนำออกจากเว็บไซต์ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เลิกการกระทำ
การหาเสียงด้วยนโยบายดังกล่าวเป็นการใช้ประโยชน์จากสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้อยู่ในฐานะคู่ขัดแย้ง เข้าลักษณะการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เจตนามุ่งหมายที่จะแยกสถาบันพระมหากษัตริย์กับความเป็นชาติไทยออกจากกัน เป็นอันตรายต่อความมั่นคง ใช้ประโยชน์สภาบันเพื่อหวังคะแนนเสียงและชนะการเลิกตั้ง ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกโจมตี ติเตียน
ศาลรัฐธรรมนูญจึงสั่งยุบพรรคก้าวไกล เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคที่ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 – 31 มกราคม 2567 เป็นเวลา 10 ปี พร้อมห้ามกรรมการบริหารพรรคชุดดังกล่าว ไปจดทะเบียนหรือมีส่วนรวมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีกเป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งยุบพรรค
กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่ถูกตัดสิทธิการเมืองได้แก่ 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2.นายชัยธวัช ตุลาธน 3.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 4.นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตรตระกูล 5.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา 6.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร 7.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 8.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ 9.นายอภิชาติ ศิริสุนทร 10.นายสุเทพ อู่อ้น 11.นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์