จากสิงคโปร์ ถึง ไต้หวัน หว่อง -ไล่ นั่งเก้าอี้ผู้นำใหม่
![](https://theleaderasia.com/wp-content/uploads/2024/05/1938134-1024x576.jpg)
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา นายลอว์เรนซ์ หว่อง ได้เข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์ ต่อจากนายลี เซียนลุง ที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่3 ของสิงคโปร์มายาวนาน 20 ปี โดยนายหว่องเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาก่อน
นายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์วัย 65 ปี ขึ้นสู่อำนาจท่ามกลางกระแสความท้าทายและผันผวนมากมายจากภายนอกประเทศ โดยเฉพาะโลกที่มีความวุ่นวายยิ่งขึ้น ความเสี่ยง และความรุนแรงจากกระแสการจัดระเบียบโลกใหม่
โดยสิงคโปร์ต้องพยายามรักษาจุดยืนระหว่างประเทศให้เป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก ทั้งกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งเป็นสองมหาอำนาจของสองขั้วการเมืองโลก การรักษาและแสดงบทบาทของชาติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการพัฒนาของกลุ่มอาเซียน โดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของชาวสิงคโปร์เป็นหลัก
จากนั้นในวันที่ 20 พฤษภาคม นายไล่ ชิงเต๋อ ได้เข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ไต้หวันต่อจากนางไช่ อิงเหวิน ซึ่งมีการจับตากันว่าจะเกิดความตึงเครียดยิ่งขึ้นระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน โดยอาจจะมีอำนาจภายนอกเข้ามาแสดงบทบาททั้งๆที่ไม่มีคำเชิญเลย
อดีตนายแพทย์ ไล่ ชิงเต๋อ แห่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(DPP) ชนะการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อต้นปี เขาเคยเป็นรองประธานาธิบดีในรัฐบาลไช่ อิงเหวิน ช่วงปี 2020-2024 ก้าวสู่ผู้นำคนใหม่ของไต้หวันท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าอาจจะทำให้สถานการณ์ของช่องแคบไต้หวันคุกรุ่นยิ่งขึ้นด้วยนโยบายเลือกอนาคตของไต้หวันโดยคนไต้หวัน ไม่ใช่กำหนดจากแผ่นดินใหญ่
รัฐบาลปักกิ่งซึ่งยึดหลักการ “จีนเดียว” เรียกไล่ ชิงเต๋อว่า ผู้นำคนใหม่ของภูมิภาคไต้หวัน โดยปักกิ่งยังเน้นย้ำเรื่องการรวมชาติภายในปี 2030 นั่นหมายถึงแรงกดดันที่จะมีต่อไต้หวันมากยิ่งขึ้นหลังพรรค DPP ได้ครองเก้าอี้ประธานาธิบดีต่อเนื่องในสมัยที่ 3