30/04/2024

ตลาดที่อยู่อาศัย มีนาคม 2567 เปิดตัวเพิ่ม 316%

 

ตลาดที่อยู่อาศัยเปิดใหม่เดือนมีนาคม 2567 เปิดตัวมากกว่าเดือนที่ผ่านมากถึง 316% ในด้านมูลค่า ส่วนจำนวนหน่วยเพิ่มถึง 296% และจำนวนโครงการเปิดมากขึ้น 3 เท่า

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยบจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th)  กล่าวถึงภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในเดือนมีนาคม 2567 มีการเปิดตัวจำนวนโครงการเพิ่มมากขึ้นกว่าเดือนก่อนเกือบ 3 เท่า โดยมีโครงการเปิดขายใหม่รวม 53 โครงการ (2 เดือนที่ผ่านมามีโครงการเปิดใหม่เดือนละ 19 โครงการ) มีจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่รวม 8,904 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 57,726 ล้านบาท

จำนวนที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 8,904 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามาถึง 296% ในเดือนนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่กลับมาเปิดตัวมากกว่ารายเล็ก โดยร้อยละ 60 ของจำนวนหน่วยขายเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ และหากรวมบริษัทในเครือจะอยู่ที่ประมาณ 74% ซึ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยหลายประเภททั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุด ในระดับราคาปานกลาง ไปจนถึงระดับราคาสูง โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ อาคารชุด 32.1% รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 30.3% ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 24.2% ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

ในด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนมีนาคม 2567 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 57,726 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมามากถึง 316% ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยว 64.5% รองลงมาคือ อาคารชุด 13.3% ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 12.9% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ

ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเดือนนี้ พบว่า บ้านแนวราบจะมีระดับราคาปานกลางถึงระดับราคาสูง อาคารชุดส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาปานกลาง หากแยกตามประเภท บ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป บ้านแฝดที่ราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ที่ราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดจะเน้นที่ราคา 2-3 ล้านบาท เป็นสำคัญ

ราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิตปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นประมาณ 6.9% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน โดยราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 6.483 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 6.065 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเดือนนี้ยังมีรูปแบบใกล้เคียงเดิม คือ พัฒนาที่อยู่อาศัยในเขตส่วนต่อขยายมากขึ้น และเน้นกลุ่มผู้ที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงขึ้นไปที่ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ยังพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐด้วยเช่นกัน

พิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 10.7% ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 9.9% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คือ อาคารชุด ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ขายได้แล้ว 27.0% รองลงคืออาคารชุด ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ขายได้แล้ว 21% และอันดับ 3 คืออาคารชุด ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ขายได้แล้ว 17.9%

เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 15 บริษัท คือ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่งจำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ

ในด้านทำเลที่ตั้ง (โปรดดูแผนที่) จะพบว่า ในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลาง และส่วนต่อขยายของเมือง (Intermediate area) จำนวน 20 โครงการ เช่น ย่านบางแค ราชพฤกษ์ ปิ่นเกล้า เพชรเกษม พระราม 5 บางบัวทอง รามอินทรา-วัขรพล เป็นต้น นอกจากนี้ส่วนที่เหลือจำนวน 33 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบนอก ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยในย่านแหล่งงาน ย่านสถานศึกษา เช่น พุทธมลฑล สาย 5-7 รัตนาธิเบศร์ บางใหญ่ บางบัวทอง ไทรน้อย ติวานนท์ รังสิต ลำลูกกา เทพารักษ์-แพรกษา หนองจอก เป็นต้น

สาเหตุที่มีการเปิดตัวมากมายในช่วงเดือนมีนาคมก็เพราะบริษัทมหาชนเร่งเปิดขายให้ทันรอบไตรมาสที่ 1 และพอถึงไตรมาส 2 โดยเฉพาะเดือนเมษายน เป็นเดือนที่มีวันหยุดมาก บริษัทต่างๆ คงไม่เปิดตัวกันนักในเดือนดังกล่าว  จากข้อมูลในไตรมาสที่ 1/2567 นี้ชี้ว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในปี 2567 อาจมีน้อยกว่าปี 2566 อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีโครงการบ้าน BOI ตามมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ล่าสุด จึงคาดว่าจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่ในปี 2567 น่าจะมากกว่าปี 2566 อย่างแน่นอน

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *