ฟิลิปปินส์ประกาศภัยพิบัติ “ไข้หวัดหมูแอฟริกัน”

มะนิลา, (ซินหัว) — แฮร์รี โรกค์ โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่าโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้ประกาศภัยพิบัติสาธารณะ หรือเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากผลกระทบของการระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกัน (ASF) เป็นเวลา 1 ปี อันเป็นการเปิดทางให้ประเทศสามารถจัดสรรเงินเพื่อรับมือกับภัยพิบัติได้

โรกค์แถลงทางโทรทัศน์ว่า “ฟิลิปปินส์จะอยู่ในสถานะนี้เป็นเวลา 1 ปี เว้นแต่จะมีการยกเลิกหรือขยายระยะเวลาต่อ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

ถ้อยแถลงที่ลงนามโดยประธานาธิบดีดูแตร์เต เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐและหน่วยการปกครองท้องถิ่นทั้งหมดรวบรวมทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อ “สกัดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูแอฟริกัน แก้ปัญหาอุปทานผลิตภัณฑ์เนื้อหมูไม่เพียงพอ ลดราคาขายปลีก และเริ่มต้นฟื้นฟูอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูท้องถิ่นโดยเร็ว”

แถลงการณ์ระบุว่าไข้หวัดหมูแอฟริกันสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูในฟิลิปปินส์นับตั้งแต่เริ่มระบาดในปี 2019 จนถึงตอนนี้ “โดยมีรายงานพบสุกรติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดก็ตาม”

นับตั้งแต่มีรายงานพบหมูติดเชื้อไข้หวัดหมูแอฟริกันครั้งแรกในปี 2019 ปัจจุบันโรคนี้ระบาดไปยัง 12 เขต จากทั้งหมด 17 เขตในประเทศแล้ว  ส่งให้จำนวนสุกรของประเทศลดลงถึง 3 ล้านตัว คิดเป็นความสูญเสียมากกว่า 1 แสนล้านเปโซ (ประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) ในภาคอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่น

แถลงการณ์ระบุว่าจำเป็นต้องเร่งจัดการโรคไข้สุกรแอฟริกันอย่างต่อเนื่อง รับมือผลกระทบที่เกิดกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูในท้องถิ่น ตลอดจนรับประกันความมั่นคงทางอาหาร  สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาขายปลีกของผลิตภัณฑ์เนื้อหมูในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้รัฐบาลเพิ่มปริมาณการนำเข้าเนื้อหมูในปีนี้