บุกกวางโจว… โชว์โรงงานGAC AION
รายงานพิเศษ / The Leader Asia
“กวางโจว” เป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง มีเนื้อที่กว่า 7,434 ตารางกิโลเมตร เรียกว่าใหญ่ติดอันดับ 4 เมืองเศรษฐกิจของจีนหากวัดตามเนื้อที่คือ ปักกิ่ง กวางโจว เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น แต่ในด้านประชากรมากสุดคือ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว เซินเจิ้น และถ้าวัดจากGDP สูงสุดคือเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น กวางโจว
ทีมผู้บริหาร
การได้ขึ้นหอคอยสูง 600 เมตรที่ชื่อ Canton Tower เพื่อชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองกวางโจว แม้จะขึ้นไปแค่ระดับ 428 เมตร ชั้นที่ 107 แต่ก็เพียงพอที่จะได้เห็นความสวยงามยามราตรีและความมีชีวิตชีวาของเมือง เป็นความแตกต่างกับครั้งหลังสุดที่มาก่อนจะเกิดโควิดที่ขึ้นชมวิวช่วงกลางวัน ได้เห็นเมืองกวางโจวแบบ 360 องศาที่เติบโตด้วยอาคารขนาดใหญ่มากมายและขยายไกลสุดสายตา
คณะสื่อมวลชนไทย
หรือการได้ลงเรือล่องแม่น้ำจูเจียงหรือแม่น้ำไข่มุกแห่งกวางโจวซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่อันดับ 4 ของจีน ชมแสงสีสองฝั่ง แล้วมองย้อนกลับขึ้นไปยังหอสูงตระหง่านที่เพิ่งลงมาเมื่อครู่ ทำให้ต้องหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพหอคอยกวางโจวที่กำลัง “เล่นไฟ”ไว้อีกครั้ง
โรงงานGAC AIONที่กวางโจว
แต่ความประทับใจสำหรับการเยือนกวางโจวครั้งนี้คือการได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมโรงงาน GAC AION ซึ่งเรียกว่าเป็นโรงงานเทคโนโลยีอัจฉริยะในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า ได้ร่วมคณะสื่อมวลชนไทยซึ่งทางโรงงานบอกว่าเป็นสื่อต่างชาติคณะแรกชมขั้นตอนการผลิตรถยนต์อย่างละเอียด ได้ทดลองนั่งรถ AION 3 คัน 3 รุ่นในสนามทดสอบ ได้เยี่ยมชมสถาบันวิจัยและพัฒนา รวมถึงการเข้าชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหนานซา ซึ่งจัดแสดงวัฒนธรรมยานยนต์ได้อย่างน่าสนใจ
แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าของGAC AION
รถยนต์ AION คือหนึ่งในค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่เข้ามาเปิดตลาดและมีแผนปักหมุดลงทุนตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเพิ่งเปิดตัวรถ AION รุ่น Y Plus ให้คนไทยได้รู้จักเมื่อไม่นานมานี้
GAC AION ที่กวางโจวเป็นบริษัทแม่ของAIONไทย อยู่ในเครือของ GAC Group หนึ่งในบริษัทยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของโลกที่ติดอันดับ TOP 500 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี มากกว่า 120% โดยยอดขายของ GAC AION ในปี 2022 มีจำนวนมากถึง 271,200 คัน เพิ่มขึ้น 97% เดือนมกราคม-สิงหาคม 2023 GAC AION มียอดขายสูงถึง 299,390 คัน นับเป็นรายได้รวมทั้งหมด 38.7 พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 103% และก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 2 ในอุตสาหกรรมยานยนต์
ทางGAC AION คาดการณ์ว่าจะผลิตและขายรถยนต์ไฟฟ้าในสิ้นปี 2023 ได้ที่ระดับ 600,000 คัน ปี 2024 ตั้งเป้าหมาย 800,000 คัน ปี 2025 ตั้งเป้าหมาย 1,000,000 คัน อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียมภายในปี 2035
ปัจจุบัน GAC AION ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลกทั้งหมด 6 รุ่น เมื่อพิจารณาจากจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ชั้นนำ AION ในรุ่น S V และ Y เป็นโมเดล 3 อันดับแรกในเซกเมนต์ของตนเอง นอกจากนี้ AION LX เป็นผู้เปิดตลาดเซกเมนต์ใหม่เป็นรายแรกบนโลกด้วยการทำระยะทางสูงสุดที่ 1,008 กม. ขณะที่ Hyper SSR สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 1.9 วินาที ซึ่งเป็นการเติมเต็มช่องว่างในการผลิตรถยนต์ซุปเปอร์คาร์เชิงอุตสาหกรรมของจีน
ประสบการณ์สั้นๆจากการชมโรงงานGAC AION ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่ามี 216 Station ต้องบอกว่าน่าทึ่งที่โรงงานขนาดใหญ่มากแต่เห็นคนงานน้อยมากเมื่อเทียบกับโรงงานรถยนต์ที่เคยเข้าชม เพราะที่นี่เป็นระบบอัตโนมัติอัจฉริยะแทบทั้งหมด จึงเห็นการทำงานของหุ่นยนต์นับร้อยๆตัวเพื่อยกชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมากอย่างว่องไว การติดตั้งชิ้นส่วนอย่างแม่นยำ รวมถึงการเชื่อมต่อชิ้นส่วนที่ไร้สะเก็ดไฟ ไร้ควัน ไร้กลิ่น เพราะโรงงานแห่งนี้เน้นมากกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
คุณ Wade Chen ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ ของ GAC AION New Energy Automobile ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง GAC AION ตั้งแต่ 11 กรกฎาคม 2017 กล่าวว่าบริษัทแม่คือ GAC ( Guangzhou Automobile Group) อยู่ในกลุ่ม TOP 5 ยักษ์ใหญ่ของจีน GAC คือรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลกวางโจวถือหุ้น 100% และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ตอนนี้อยู่ในอันดับ 165 ของ Fortune Global 500
คุณChen บอกว่าถ้าให้พูดถึง 3 บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีของจีน คนในวงการจะเรียกว่า BAT ที่หมายถึง Baidu (ไป่ตู้) Alibaba (อาลีบาบา) และ Tencent (เทนเซ็นต์) แต่ถ้ากล่าวถึง 3 บริษัทชั้นนำในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ของจีนจะมีคำว่า NEW BAT ที่หมายถึงเจ้ารถยนต์ไฟฟ้า 3 ค่ายคือ BYD AION และ TESLA
เมื่อถามถึงเหตุผลที่เลือกไทยเป็นประเทศแรกของโลกในการลงทุนต่างประเทศ คุณChen ตอบว่าเพราะมองเห็นศักยภาพของไทยในการเป็นฐานของอาเซียน เป็นก้าวที่มั่นคง AION มีพันธมิตรในกลุ่มGAC มากมาย มีแผนการผลิตแบตเตอรี่ในไทยด้วย
ในเอกสารของ AION ระบุว่า อาเซียนเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของกลยุทธ์การขยายตัวในต่างประเทศของ AION ประเทศไทยในฐานะประเทศที่ผลิตและส่งออกรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมีศักยภาพที่สุด และยังเป็นตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนคือตลาดที่สำคัญที่สุดในการขยายตลาดต่างประเทศของ AION
แบตเตอรี่ทรงประสิทธิภาพและปลอดภัย หัวใจสำคัญของEV
สำหรับ AION Y Plus ที่เข้ามาเปิดตลาดในไทยนั้นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าSUV 100% ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม AEP ( AION Electric Platform) ซึ่งพัฒนาโดยทีมนักวิจัยกว่า 200 คนในเวลา 30 เดือนและเงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ทำให้แบตเตอรี่มีความจุไฟฟ้าสูงขึ้น สามารถขับขี่ได้ไกลขึ้น และมีความปลอดภัยสูง มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และระบบอัจฉริยะในการสั่งงานแบบเหนือชั้น
ระยะขับขี่ของ AION Y Plus ไร้กังวลตลอดการเดินทาง ความจุของแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น รุ่นระยะทาง 490 กม. มีความจุแบตเตอรี่ 63.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง และรุ่นระยะทาง 550 กม. มีความจุแบตเตอรี่ 68.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่อ 100 กิโลเมตรเพียง 13.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการขับขี่โหมดคันเร่งอัจฉริยะ i-pedal อัตราสนับสนุนระยะทางมากถึง 23%
AION Y Plus มาพร้อมกับ Magazine Battery เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก วัสดุเซลล์ทนความร้อนเพิ่มขึ้น 30% โมดูลกันความร้อนมากขึ้น PACK แบตเตอรี่ระบายความร้อนเร็วขึ้น โดยมีพื้นที่ระบายความร้อนเพิ่มขึ้น 40% ประสิทธิภาพการระบายความร้อนเพิ่มขึ้น 30% ตัวเคสด้านบนทนความร้อนถึง 1,400 องศา
ผู้บริหารของ AION เน้นมากว่าแบตเตอรี่ของGAC เป็นแบบแมกกาซีน อยู่ภายในตัวถังอลูมิเนียมอัลลอยมีความปลอดภัยสูงสุด ตั้งแต่ผลิตมาจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยมีปัญหา ไม่มีเหตุการณ์ไฟไหม้แม้แต่ครั้งเดียว รับประกัน 8 ปี มีการทดสอบแช่น้ำได้นาน 6 ชั่วโมงโดยน้ำไม่ซึมเข้าแบตเตอรรี่ ปัจจุบันทีม R&Dกำลังค้นคว้าวิจัยแบตเตอรี่กราฟีน ที่อัดประจุได้เร็วขึ้น ไม่ระเบิด ปลอดภัยต่อการใช้งาน น้ำหนักเบา ราคาถูกลง ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
พบกับรถยนต์ AION ได้ในงานมหกรรมรถยนต์ Motor Expo 2023 วันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2566 อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคเมืองทองธานี