ประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ไทยดัน EEC เชื่อมBRI
หอการค้าไทย-จีน ได้จัดการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention : WCEC) ครั้งที่ 16 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีนักธุรกิจทั่วโลกกว่า 4,000 คน จาก 50 ประเทศเดินทางมาเข้าร่วม
บุคคลสำคัญที่เข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ได้แก่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี นายเกา หยุนหลง รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี นายธนินท์ เจียรวนนท์ นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานกิตติมศักดิ์ถาวรหอการค้าไทย-จีน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายหลี เสี่ยวปอ นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีน-ไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ICBC นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
นายจุรินทร์ กล่าวเปิดงานว่าการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลกครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมรับทราบพัฒนาการทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย และเห็นลู่ทางโอกาสทางธุรกิจการค้าการลงทุนกับประเทศไทย ซึ่งสะท้อนจากนโยบาย และศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน ทั้งจากการขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของไทยภายใต้ความตกลงทางการค้าที่ทันสมัย ซึ่งรวมถึง FTA อาเซียน-จีน และ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ตลอดจนการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าในรูปแบบที่มีความยืดหยุ่น
ทั้งนี้ จากการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการ ส่งเสริมการลงทุนในเขตพื้นที่ EEC ตลอดจนโอกาสการร่วมลงทุนกับไทย ในอุตสาหกรรมเป้าหมายในระเบียงเศรษฐกิจต่างๆ ในต่างประเทศ อัน เกิดจากการกระจายการเจริญเติบโตภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”(BRI)
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน และประธานกรรมการจัดงาน WCEC ครั้งที่ 16 กล่าวว่า หอการค้าไทย-จีน ให้ความสำคัญกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และแผนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการประชุมครั้งนี้จัดภายใต้หัวข้อร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยภูมิปัญญานักธุรกิจจีน โดยหวังให้มีโอกาสพัฒนาจาก “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ที่เป็นความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และเขตอ่าวเศรษฐกิจกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า”
นายธนินท์ เจียรวนนท์ นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานกิตติมศักดิ์ถาวรหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า ปัจจุบันโลกของเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก เราจึงจำเป็นต้องศึกษาวิทยาการด้านต่าง ๆ จากสหรัฐอเมริกา และต้องนำทรัพยากรจากทั่วโลก ทั้งด้านบุคคลากร เงินทุน เทคโนโลยี และวัตถุดิบ เข้ามาที่จีน ซึ่งในวันนี้กล่าวได้ว่าจีนมีปัจจัยพื้นฐานในด้านต่างๆ เหล่านี้พร้อมที่จะพลิกโฉมการพัฒนาจากเดิมที่ใช้แรงงานราคาถูก เราจึงมีความมั่นใจในนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเป็นอย่างมาก
ประเทศไทยของเรามีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ของโลก ผ่านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่โครงการที่ช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เช่น สิทธิปลอดภาษีโครงการที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์เทคโนโลยี เป็นต้น ซึ่งในยุค 4.0 ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงยังมีความสำคัญ เพราะอีคอมเมิร์ชต้องอาศัย Real Economy ในการผลิตสินค้าที่จับต้องได้ และต้องอาศัยโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งทางบก เพื่อส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค การพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริงที่ใช้นวัตกรรมในการผลิตให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูง มูลค่าสูงขึ้น จึงจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ชและโลจิสติกส์ดำรงอยู่ต่อไป
“การค้าของโลกในอนาคตนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี เพราะเมื่อมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น คุณภาพของสินค้าก็จะดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เศรษฐกิจในยุค 4.0 ไม่ได้หมายถึงให้เราละทิ้งธุรกิจเก่าที่เคยมีมาก่อน แต่ให้เราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจที่เรามีอยู่ ทำให้ธุรกิจมีความทันสมัยมากขึ้น และสามารถขยายธุรกิจออกไปให้มากขึ้น”นายธนินท์กล่าว
หลังจากพิธีเปิดได้มีการประชุมกลุ่มย่อย 4 หัวข้อ ได้แก่
1.ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทย
2.โอกาสพัฒนาจาก “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับ “ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและเขตอ่าวเศรษฐกิจกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า”
3.แนวคิดและภูมิปัญญาการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจชาวจีน
4.การสืบสานและพันธกิจของนักธุรกิจชาวจีนรุ่นใหม่ มีผู้บริหารระดับสูงในไทยและนักธุรกิจจีน ขึ้นบรรยายให้ความรู้ โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนของประเทศไทย ,แนวความคิด และภูมิปัญญาการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจชาวจีน และการสืบสานและพันธกิจของนักธุรกิจชาวจีนรุ่นใหม่ เป็นต้น