28/04/2024

สถานการณ์บ้านและที่ดินในภาคตะวันออกวันนี้

 

โดย………ดร.โสภณ พรโชคชัย

เปิดทำเลราคาที่ดินแพงสุดตามราคาตลาดในภาคตะวันออก อยู่ถนนเลียบชายหาดพัทยา ราคา 610,000 บาทต่อตารางวา โดยราคาที่ดินขึ้นยกแผงเฉลี่ย 7.6% ส่วนที่อยู่อาศัยยังคึกคักในภาคตะวันออกโดยเฉพาะชลบุรีที่มีหน่วยขายมากที่สุดในประเทศรองจากเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่จังหวัดที่ยังเติบโตช้าก็คือฉะเชิงเทรา แต่ก็ยังติดหนึ่งในสิบจังหวัดที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยสูงสุด

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (area.co.th) ได้สำรวจราคาที่ดินและตลาดที่อยู่อาศัยพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและที่ดินในภูมิภาคระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

 

 

ราคาที่ดิน

ราคาที่ดินที่ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยนำเสนอนี้เป็นราคาตลาด โดยได้สำรวจจุดสำคัญไว้ 29 จุด โดยบริเวณที่แพงที่สุดอยู่ที่ถ.เลียบชายหาด  เลียบชายหาด ด้านหน้าโรงแรมอิสตินี่ ราคาตารางวาละ 610,000 บาทโดยเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 5.2% ทั้งนี้ราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.6% จากปี 2564 และสามารถเรียงตามลำดับราคาได้ดังนี้:

อันดับ บริเวณ                                                             ราคาบาท/ตรว   เพิ่มขึ้น

1        ถ.เลียบชายหาด  พัทยาซอย 8 ด้านหน้าโรงแรมอิสตินี่  610,000     5.2%

2       ถ.พัทยาสาย 2 ตรงข้าม Pattaya Night Bazaar       530,000     6.0%

3       ถ.พัทยากลาง  ข้างร้านแม่ศรีเรือน                             340,000     0.0%

4       ถ.พัทยาเหนือ  ตรงข้าม Heal Land Pattaya            300,000     0.0%

5       ถ.พัทยา-นาเกลือ  วงศ์อมาตย์ (ตรงข้ามสยามซิตี้ ปาร์ค) 270,000    8.0%

6       ถ.พระตำหนัก  ใกล้ไดมอน ทาวน์เวอร์ พระตำหนัก      200,000     7.0%

7       ถ.จอมเทียน สาย 1  ใกล้ โรงแรม Grand Jomtien Palace Pattaya 190,000   5.6%

8       ถ.จอมเทียนสาย 2  ตรงข้าม ริเวียร่า จอมเทียน            170,000     6.3%

9       ถ.พัทยาใต้  ตรงข้าม CAT พัทยา                              170,000     6.3%

10    ถ.เทพประสิทธิ์  ด้านหน้าทางเข้าสนามโกคาร์ท พัทยา   160,000     6.7%

11    ถ.สุขุมวิท  ตรงข้ามเทสโก้โลตัส ชลบุรี                        130,000     8.3%

12    ถ.สุขุมวิท  ข้างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์       120,000     9.1%

13    ถ.สุขุมวิท  ฝั่งตรงข้ามโชว์รุมโตโยต้า ระยอง               110,000 13.4%

14    ถ.สุขุมวิท  ฝั่งตรงข้ามมิโนซ่า พัทยา                          105,000 10.5%

15    ถ.สุขุมวิท  ฝั่งตรงข้ามสวนน้ำการ์ตูน เน็ตเวิร์ค            105,000 10.5%

16    ถ.สุขุมวิท  Mini Big C หนองมน                                98,000     8.9%

17    ถ.สุขุมวิท  ฝั่งตรงข้ามโรบินสัน ศรีราชา                       95,000     8.0%

18    ถ.เลี่ยงเมืองชลบุรี(ทล.361)  ตรงข้าม PTT station      73,000     7.4%

19    ถ.สุขุมวิท  PTT station แหลมฉบัง (ใกล้ Herbor Mall) 70,000   7.7%

20    ถ.ข้าวหลาม  ชลบุรี Wedding                                   69,000     9.5%

21    ถ.สุขุมวิท  ฝั่งตรงข้ามเทสโก้ โลตัส บางเสร่                   67,000     6.3%

22    ถ.ห้วยใหญ่  ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนทุ่งคา                         52,000     8.3%

23    ถ.เลี่ยงเมืองระยอง  ข้างแม็คโคร ระยอง                       50,000     6.4%

24    ถ.พรประภานิมิตร  ตรงข้ามเทสโก้ โลตัส สยามคันทรี คลับพัทยา 49,000 11.4%

25    ถ.อัสสัมชัญ-สวนเสือ  ฝั่งตรงข้ามสวนเสือศรีราชา          45,000 12.5%

26    ถ.ทล.331  ฝั่งตรงข้ามอีสเทิร์นซีบอร์ด                         42,000 10.5%

27    ถ.ชัยพฤกษ์ 2  ศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก             41,000     5.1%

28    ถ.บ่อวิน-ปลวกแดง (ทล.3013)  ด้านข้างแมคโคร บ่อวิน 39,000     8.3%

29    ถ.ทุ่งกลม-ตาหมัน  นาการาน่า รีสอร์ท                         24,500     6.5%

 

 

ที่อยู่อาศัย

ดร.โสภณกล่าวว่า ชลบุรีมีโครงการที่อยู่อาศัยมากที่สุดในประเทศไทยรองจากกรุงเทพมหานคร โดยมี 1,529 โครงการ รวม 259,939 หน่วย มีมูลค่าโครงการอยู่ 732,586 ล้านบาท หรือมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 2.818 ล้านบาท ขายเหลืออยู่ 34,172 หน่วย  ส่วนระยอง ก็อยู่ในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันมีหน่วยขายรวมกันมากเป็นอันดับที่ 3 แต่หากนับจำนวนหน่วยรอขาย (เหลือขายอยู่) จะมีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 3 โดยระยองมีหน่วยเหลือขายอยู่ 20,530 หน่วย ซึ่งมากกว่าเชียงใหม่ที่ยังรอขายอยู่ 13,594 หน่วยเท่านั้น และฉะเชิงเทรา มีหน่วยขายรอขายอยู่ 6,840 หน่วย ถือเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 10 ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเฉพาะ 3 จังหวัดหลักของภาคตะวันออก ติดหนึ่งในสิบของจังหวัดที่มีการพัฒนาสูงสุด

 

 

ในรายละเอียดพบว่า

  1. ฉะเชิงเทรามีสัดส่วนการขายค่อนข้างต่ำ คือเดือนหนึ่งขายได้ราว 1.8% เท่านั้น หน่วยขายกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ยังเหลืออยู่เป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 2,633 หน่วย จากหน่วยที่รอขายอยู่ทั้งหมด 6,840 หน่วย
  2. ชลบุรี มีหน่วยเหลือขายอยู่ 34,172 หน่วย แต่อัตราการขายดีกว่าฉะเชิงเทรา คือขายได้แล้ว 86.9% และแต่ละเดือนขายได้ 2.3% ของหน่วยขายทั้งหมด กลุ่มหลักที่ขายอยู่กลับเป็นห้องชุด โดยมีจำนวน 12,157 หน่วย รองลงมาคือทาวน์เฮาส์ 11,988 หน่วย
  3. ระยองมีหน่วยรอขายอยู่ 20,530 หน่วย ขายได้แล้ว 72.5% และอัตราการขายประมาณ 2.3% ต่อเดือน สินค้าส่วนใหญ่ที่รอคนซื้ออยู่คือทาวน์เฮาส์ 8,821 หน่วย รองลงมาคือบ้านเดี่ยว 5,946 หน่วย และห้องชุด 2,229 หน่วยตามลำดับ

โดยสรุปแล้วตลาดที่อยู่อาศัยในฉะเชิงเทรายังขายได้น้อยกว่าจังหวัดอื่น และยังมีอัตราการขายที่ช้ากว่าจังหวัดอื่น จึงไม่ควรไปลงทุนเพิ่มอุปทานให้มากไปกว่านี้ในช่วงนี้

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *