19/05/2024

ส.รับสร้างบ้านส่งสารถึงศปก.ศบค.ขอสร้างบ้านที่มิใช่จัดสรรต่อได้

“ส.ธุรกิจรับสร้างบ้าน” ร่อนหนังสือถึง ศปก.ศบค. ขอความชัดเจนการก่อสร้างบ้านพักอาศัยที่มิใช่โครงการจัดสรรให้สร้างต่อได้

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) เผยว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) ได้ส่งหนังสือถึงพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) เพื่อขอทราบความชัดเจนในการก่อสร้างบ้านพักอาศัยที่มิใช่โครงการจัดสรรให้สามารถดำเนินการสร้างต่อได้

จากการพิจารณาตามราชกิจจานุเบกษาออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25 ) ดังกล่าว มิได้มีเป้าประสงค์เพื่อมีคำสั่งให้ปิดสถานที่ก่อสร้างประเภทอาคารบ้านพักอาศัยที่มิได้เป็นโครงการจัดสรร ซึ่งหมายถึงบ้านพักอาศัยของประชาชนทั่วไปที่สร้างบ้านที่ดินของตนเอง เนื่องจากมิได้เป็นโครงการขนาดใหญ่หรืออาคารสาธารณะที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก และมิได้ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปในวงกว้าง

“นับตั้งแต่ราชกิจจานุเบกษาดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและตีความไม่ตรงกันทั้งทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานท้องถิ่น รวมถึงประชาชนโดยทั่วไป ทำให้เกิดข้อโต้แย้งที่ยังไม่มีข้อสรุป”

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่าดังนั้น สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านบนที่ดินของประชาชน ที่ปัจจุบันมีงานก่อสร้างบ้านพักอาศัยสร้างเองกระจายอยู่ทั่วในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นจำนวนหลายพันหลังต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยขนาดเล็ก มีแรงงานก่อสร้างเป็นหลักสิบคน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดคลัสเตอร์ ของผู้ติดเชื้อจำนวนมากได้ อีกทั้งสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านยังมีมาตรการในการป้องกันโควิดเป็นอย่างดี ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าไซต์งานก่อสร้างของสมาชิกสมาคมฯ ยังไม่มีที่ใดติดเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศยังคงพอเดินไปได้ คนหลายหมื่นคนยังพอมีงานทำ ทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจึงต้องการได้รับการยืนยัน เพื่อความชัดเจนว่าการก่อสร้างบ้านพักอาศัยที่สร้างเองที่มิใช่โครงการจัดสรร สามารถดำเนินงานก่อสร้างต่อไปได้ ดังนี้ 1.ตามราชกิจจานุเบกษามิได้รวมถึงการก่อสร้างและต่อเติมบ้านพักอาศัยเพื่ออยู่เอง และ 2.กรณีแรงงานมิได้พักอาศัยในสถานที่ทำงาน สามารถเดินทางมาทำงานได้ตามปกติ

อนึ่ง ตามที่มีราชกิจจานุเบกษา ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 25 ) ข้อ 2.การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อควบคุมโรคและป้องกันการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบอาชีพแรงงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงและพบการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อน

ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดปริมณฑล อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อพิจารณา มีคำสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร หรือพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างหรือสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนประเภทอาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ อาคารที่อยู่อาศัยรวม อาคารสาธารณะ ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือโครงการจัดสรรทุกประเภท ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน หรือโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และให้มีคำสั่งปิดสถานที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงาน ทั้งภายในและภายนอกสถานที่ก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร รวมทั้งมีคำสั่งให้หยุดงานก่อสร้าง และห้ามการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน เป็นการชั่วคราวอย่างน้อยสามสิบวัน

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *