19/05/2024

GFC ท็อปฟอร์ม สู่ All Time High เสิร์ฟข่าวดี 3 เด้ง กำไรปี66 พุ่ง 18% – ปันผล 0.13 บาท/หุ้น

 

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) “GFC” ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากอัตรา  ผู้เข้ารับการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากผู้เข้ารับบริการเพื่อรักษาผู้มีบุตรยากกับทาง GFC ตั้งแต่การรับบริการตรวจเบื้องต้น, การรักษาด้วยวิธี IUI, การรักษาด้วยวิธี ICSI, การตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน NGS และการฝากไข่ เพิ่มสูงขึ้น   หนุนผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2566 มีรายได้จากการให้บริการดังกล่าวแตะ 100 ล้านบาท

ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรายไตรมาส รับอานิสงส์จากการได้รับความไว้วางใจจากผู้เข้ารับการรักษาวางแผนอยากมีบุตรผ่านแผนการตลาดต่างๆและกระแสมีลูกปีมังกรจึงทำให้ดีมานด์สูงขึ้นอย่างชัดเจน

จากผลงานในช่วงไตรมาส 4/2566 ที่เติบโตโดดเด่นส่งผลให้ภาพรวมของผลประกอบการ  ทั้งปี 2566 ท็อปฟอร์มสร้างสถิติสูงสุดใหม่ All Time High โดยมีรายได้รวม 100.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% (YOY) และมีกำไรสุทธิที่ 22.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% (YOY) สาเหตุที่ผลการดำเนินงานแตะ New High เนื่องจากบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มศักยภาพการรองรับลูกค้า อาทิ เพิ่มจำนวนแพทย์สำหรับรองรับคนไข้ที่เข้ารับการรักษา จัดตารางคิวที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้คนไข้ในการเข้ารับบริการ และล่าสุดขยายพื้นที่เพิ่มเติมโซนอาคารหลังคลินิกสาขาพระราม 3 เพื่อรองรับดีมานด์ผู้เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากทั้งในประเทศ  และต่างประเทศ

ควบคู่การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook , Line, Instagram , TikTok , Twitter และ YouTube รวมถึงมีฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เพื่อรับคําปรึกษา แนะนําดูแลลูกค้าตลอดขั้นตอนการรักษาเพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ที่มีปัญหาการมีบุตรยากได้รู้จัก GFC มากขึ้น ซึ่งจากแผนการปรับกระบวนทัพดังกล่าว    ตอกย้ำความสำเร็จที่สะท้อนออกมาในรูปผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในวันเดียวกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลงวดไตรมาส 4 ปี 2566 (ต.ค.-ธ.ค.) อัตราหุ้นละ 0.13 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 28.60 ล้านบาท โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 12 มีนาคม 2567 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 11 มีนาคม 2567 เพื่อดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 25 มีนาคม 2567

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GFC ยังกล่าวถึงแผนธุรกิจปี2567ว่า จากตัวเลขผลการดำเนินงานที่ทำสถิติใหม่สูงสุด ประกอบกับทิศทางธุรกิจการรักษาผู้มีบุตรยากเป็นเทรนด์ของโลก บริษัทฯ ได้วางโรดแมป และ      การเติบโต 3 ปีข้างหน้า (2567-2569) สู่การสร้าง New S-Curve ที่มีโอกาสจะโตได้ 20-40% โดยในปีนี้ GFC  ตั้งเป้าอัตราการเติบโตสูงระห่วาง 20-40% ขณะที่ในปี 2568 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง 35% จากฐานในปีนี้   ส่วนปี 2569 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ระดับ 20% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากการขยาย 2 สาขาใหม่ ประกอบด้วย สาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 และสาขาอุบลราชธานี ที่คาดว่าเปิดให้บริการได้ปลายไตรมาส 2/2567 โดยทั้ง 2 สาขาจะสร้างรายได้เพิ่มเข้ามาให้กับ GFC ทันที และเชื่อว่าทั้ง 2 สาขาเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สำหรับรองรับผู้เข้ารับการรักษาและเข้ารับคำปรึกษาผู้มีบุตรยากทั้งกลุ่มคนไทยและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งสถานที่  ทั้ง 2 แห่งอยู่ในแหล่งโลจิติกส์ทางด้านคมนาคมโดยเฉพาะสนามบิน ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำคัญสำหรับการเดินทางเข้ารับการรักษา ดังนั้นบริษัทฯ เชื่อว่าทุกสาขาของ GFC จะสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เข้ารับการรักษา   ผู้มีบุตรยากได้ครอบครบทุกมิติ

สาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 แลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ สู่การยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมแบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น อาทิ การเปิดรับลูกค้าต่างประเทศ ห้องวิจัย          และห้องปฏิบัติการสำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยห้องประชุมสัมมนาวิชาการทางการแพทย์ ศูนย์ฝึกอบรม  นักเทคนิคการแพทย์ภายในของกลุ่มบริษัท (In-house training)

– สาขาอุบลราชธานี ใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งหมดกับสาขาพระราม 3 และสาขาพระราม 9 ซึ่งจะเป็น   การให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยากครอบคลุมแบบครบวงจร โดยมีแพทย์เฉพาะทางด้านการเจริญพันธุ์ และนักวิทยาศาสตร์เป็นของตนเอง มีห้องวิจัย และปฏิบัติการสำหรับตัวอ่อน ห้องตรวจ 2 ห้อง ห้องผ่าตัด 1 ห้อง ห้องพักฟื้น 2 เตียง เป็นต้น

“ ความสำเร็จของ GFC สะท้อนถึงศักยภาพความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช และเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ด้านการให้บริการทางการแพทย์ผู้มีปัญหามีบุตรยาก ทำให้วันนี้       เราได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าในการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของครอบครัว   ที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยาก เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้วัดกันที่ Success Rate หรืออัตราความสำเร็จ  ในการตั้งครรภ์ ซึ่ง GFC มีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงผลประกอบการ   สู่  All Time High ”

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *