06/05/2024

5 แชมป์บริษัทพัฒนาที่ดินเดือนพฤษภาคม 2566

 

โดย……….ดร.โสภณ พรโชคชัย

มาชมแชมป์บริษัทพัฒนาที่ดินที่เปิดตัวโครงการมากที่สุดเฉพาะในเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 5 อันดับแรก เรียงตามจำนวนหน่วย และมูลค่าโครงการ และเทียบกับแชมป์ในปี 2565

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่า บริษัทพัฒนาที่ดินที่เป็นแชมป์เปิดตัวโครงการสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2566 เรียงตามจำนวนหน่วยทีเปิดใหม่ เป็นดังนี้

อันดับที่ 1 บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดตัวทั้งหมด 1,224 หน่วย รวมมูลค่า 2,688 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 2.196 ล้านบาท บริษัทนี้เคยเป็น “เจ้าตลาด” ที่อยู่อาศัยราคาประหยัดอยู่แล้ว

อันดับที่ 2 บมจ. แสนสิริ เปิดตัวทั้งหมด 1,129 หน่วย รวมมูลค่า 14,636 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 12.964 ล้านบาท ถือได้ว่าบริษัทนี้ยังคงเน้นการเปิดตัวโครงการราคาสูงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อันดับที่ 3 บมจ. แอสเซทไวส์ เปิดตัวทั้งหมด 984 หน่วย รวมมูลค่า 2,223 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 2.259 ล้านบาท กล่าวได้ว่าเป็นการเปิดตัวโครงการในลักษณะสินค้าราคาปานกลางค่อนข้างต่ำ

อันดับที่ 4 บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดตัวทั้งหมด 975 หน่วย รวมมูลค่า 7,263 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 7.449 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทนี้ยังเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพในระดับราคาค่อนข้างสูง

อันดับที่ 5 บมจ. อารียา พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวทั้งหมด 542 หน่วย รวมมูลค่า 8,730 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 16.108 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าบริษัทนี้แม้จะติดอันดับ 5 ในแง่จำนวนหน่วย แต่เป็นอันดับสองในแง่มูลค่า

และหากเรียงตามมูลค่าที่เปิดตัวสูงสุด จะเป็นดังนี้:

อันดับที่ 1 บมจ. แสนสิริ เปิดตัวทั้งหมด 14,636 ล้านบาท รวมจำนวนหน่วย 1,129 หน่วย และมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 12.964 ล้านบาท ถือเป็นแชมป์หมายเลขหนึ่งในการเปิดตัวมูลค่าสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2566

อันดับที่ 2 บมจ. อารียา พร็อพเพอร์ตี้ เปิดตัวทั้งหมด 8,730 ล้านบาท รวมจำนวนหน่วย 542 หน่วย และมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 16.108 ล้านบาท ในเดือนนี้ถือเป็นแชมป์โครงการที่มีหน่วยขายราคาสูงสุด

อันดับที่ 3 บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดตัวทั้งหมด 7,263 ล้านบาท รวมจำนวนหน่วย 975 หน่วย และมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 7.449 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทนี้ครองแชมป์เปิดตัวสูงสุดตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา

อันดับที่ 4 บมจ. เอสซี แอสเสทคอร์ปอเรชั่น เปิดตัวทั้งหมด 4,245 ล้านบาท รวมจำนวนหน่วย 403 หน่วย และมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 10.534 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทนี้เป็นแชมป์ในการเปิดตัวโครงการราคาสูงในช่วงปีที่ผ่านๆ มา

อันดับที่ 5 บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดตัวทั้งหมด 2,688 ล้านบาท รวมจำนวนหน่วย 1,224 หน่วย และมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 2.196 ล้านบาท นับว่าบริษัทดังกล่าวกลับมาเปิดตัวที่อยู่อาศัยในราคาประหยัดมากขึ้น และเป็นแชมป์ราคาต่ำสุดในเดือนนี้

ทั้งนี้หากพิจารณาจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาทั้งปี ในจำนวน 10 บริษัทที่มีการเปิดตัวโครงการสูงสุด  โดยบริษัทอันดับหนึ่งก็คือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ด้วยจำนวนโครงการสูงถึง 46 โครงการ รวม 12,072 หน่วยที่เปิดใหม่ ในมูลค่าสูงสุดถึง 61,614 ล้านบาท โดยมีราคาเฉลี่ยหน่วยละ 5.104 ล้านบาท  จะเห็นได้ว่าบริษัทนี้มีแชร์อยู่ในตลาดสูงถึง 11.3% ของจำนวนหน่วยเปิดใหม่ทั้งหมดและ 13% ของมูลค่าการพัฒนาที่เปิดใหม่ในปี 2565

 

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้าวิกฤติโควิด-19 บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท ครองแชมป์มาโดยตลอด เช่น ในปี 2561 เปิดตัวถึง 46 โครงการ รวม 15,574 หน่วย หรือ 12.4% ของหน่วยขายเปิดใหม่ทั้งหมดในปีดังกล่าว หรือในปี 2562 ก็เปิดตัวจำนวนหน่วยสูงสุดถึง 10,150 หน่วยเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน  ในช่วงต่อมา บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท เน้นสินค้าคุณภาพมากขึ้น และในช่วง 2 ปีหลังมานี้ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) จึงเริ่มมาเป็นอันดับหนึ่งแทน

สำหรับในปี 2565 บจก.รีเจ้นท์กรีนเพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์เพียงแห่งเดียวที่สามารถครองรองแชมป์ โดยแม้จะเปิดตัวโครงการเพียง 2 แห่ง แต่ก็มีหน่วยขายรามกันถึง 8,105 หน่วย หรือ 7.6% ของหน่วยขายเปิดใหม่ทั้งหมด สินค้าของบริษัทนี้เป็นห้องชุดราคาถูก เป็นเงินหน่วยละ 1.2 ล้านบาทเท่านั้น  บริษัทอีกแห่งหนึ่งที่เน้นการพัฒนาสินค้าราคาถูกในจำนวนมากก็คือ บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งพัฒนาถึง 4,946 หน่วย หรือ 4.6% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด  สินค้าของบริษัททั้งสองแห่งนี้ได้รับการตอบรับดีมากจากตลาด

 

 

สำหรับ บมจ.เอสซีแอสเสทคอร์ปอเรชั่น แม้จะติดอันดับ 10 ในจำนวนหน่วยเปิดใหม่ทั้งหมด คือเปิด 3,779 หน่วย หรือ 3.5% ของตลาด แต่ปรากฏว่าเป็นอันดับสองของบริษัทที่มีมูลค่าการเปิดตัวสูงสุดถึง 41,964 ล้านบาทหรือ 8.9% ของมูลค่าทั้งตลาด และเป็นบริษัทที่เน้นตลาดระดับบน โดยมีราคาเฉลี่ยของสินค้าที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 11.105 ล้านบาท ตลาดระดับบนนี้ในอดีตเป็นของ บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ บมจ.แสนสิริ บมจ.โนเบิลดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาที่หลากหลายมากขึ้น

        ในปี 2566 แชมป์พัฒนาที่ดินจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ต้องติดตามต่อไป

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *