ชาวหลักหกรุกต่อต้านถมคลองเปรมฯ หน่วยงานรัฐหลับตาอ้าง“แผนแม่บท”
ประชาชนตื่นรู้หน่วยงานรัฐมั่วนิ่มถมคลองเปรมประชากร อ้างแผนแม่บทฯป้องกันน้ำท่วมรุกล้ำคลอง แต่กลับหลับหูหลับตาถมคลองกว้างจาก50เมตรเหลือ25เมตรเพื่อสร้างบ้านมั่นคง ชี้ปัญหาเกิดขึ้นแล้วหากปล่อยต่ออาจหายนะ
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 นายภาณุเมศวร์ ศิรินรานันตร์ ตัวแทนประชาชนชาวหลักหก ได้นำชาวบ้าน ในพื้นที่ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เข้าร้องเรียนถึงความเดือดร้อนจากการที่หน่วยงานของรัฐสนับสนุนให้ทำการถมคลองเปรมประชากรเพื่อก่อสร้างบ้านมั่นคงซึ่งเป็นการกระที่ผิดกฎหมาย อีกทั้ง ไม่เคยทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่สองฝั่งคลอง ไม่ทำการศึกษาผลกระทบ สิ่งแวดล้อม(EIA) จนเมื่อฝนตกหนักทำให้การระบายน้ำไม่เป็นไปตามธรรมชาติมีผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหมู่บ้านใกล้เคียง
นายภาณุเมศวร์กล่าวว่า คลองเปรมประชากร ขุดโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร และได้ทรงมอบที่ดินสองฝั่งคลองให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ทำมาหากินตลอดแนวคลอง นับตั้งแต่ขุดเสร็จในปี พ.ศ.2413 ถึงปัจจุบัน คลองเปรมประชากรมีอายุ 153 ปี ถือเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน คลองมีความกว้างประมาณ 50 เมตร แต่ในช่วงวิกฤติโควิด-19 มีการสมคบคิดถมคลองเปรมฯให้แคบลงเหลือขนาดความกว้างเพียง 25 เมตร โดยอ้าง “แผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร” ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562
ในแผนแม่บทฯดังกล่าวมี 2 เรื่องสำคัญคือ การสร้างเขื่อนและอุโมงค์ระบายน้ำ ที่มีสำนักการระบายน้ำ กทม. และกรมโยธาธิการและผังเมือง รับผดชอบเป็นหลัก กับการพัฒนาชุมชนริมคลองที่มีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. กำกับดูแลโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) รับผิดชอบสร้างบ้านมั่นคง
“กรมธนารักษ์ผู้ให้เช่าที่ราชพัสดุ กรมชลประทานผู้ดูแลคลองเปรมประชากรและผู้ส่งมอบที่ราชพัสดุคืนให้กับกรมธนารักษ์ กรมโยธาธิการและผังเมืองผู้สร้างเขื่อนกลางคลองแต่ไม่สร้างเขื่อนป้องกันริมตลิ่งริมคลอง กรมส่งเสริมสหกรณ์ผู้จัดตั้งสหกรณ์และเอาใครไม่รู้มาอยู่ในสหกรณ์ พอช.ผู้ออกแบบวางแบบแปลนโครงการบ้านมั่นคง เป็นผู้จัดการโครงการ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเป็นผู้ดำเนินการและผู้อำนวยการตามที่มหาดไทยสั่งการลงมาแต่ไม่เคยลงพื้นที่มาดูสภาพความเป็นจริง เทศบาลตำบลหลักหกผู้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร และสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด เป็นผู้ดำเนินการถมคลอง โดยเพียงแจ้งให้เทศบาลทราบและเป็นผู้ขออนุญาตก่อสร้าง กลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นผู้มีส่วนร่วมในโครงการนี้ ถามว่าเอาอำนาจอะไรมาบังอาจถมคลองที่เสด็จพ่อ ร.5 ทรงขุดไว้ให้ปวงประชาราษฎร และคณะที่ประชุมใดกำหนดให้คลองเปรมประชากรมีขนาดความกว้างเหลือเพียง 25 เมตรจากเดิม 50 เมตร” นายภาณุเมศวร์ตั้งคำถามต่อทุกส่วนงานที่รับผิดชอบ
คลองเปรมประชากรในตำบลหลักหกนี้ เปรียบเสมือนแก้มลิงขนาดใหญ่ที่สุดเพราะมีความกว้างถึง 50 เมตร สามารถอุ้มน้ำในดินได้มากตามความกว้างเดิม เป็นพื้นที่คอยรับน้ำไหลย้อนกลับจากพื้นที่ งามวงค์วาน หลักสี่ ดอนเมือง และในตำบลหลักหกฝั่งตะวันตก โดยในปี 2554 ซึ่งเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เคยใช้แก้ไขในการระบายน้ำท่วมขังที่ประตูน้ำเปรมใต้ แต่ปัจจุบันคลองเปรมฯไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์เนื่องจากถูกถมเหลือความกว้างเพียง 25 เมตรเพื่อสร้างบ้านมั่นคงแทนที่จะขยายความกว้าง ไม่มีการทำเขื่อนป้องกันตลิ่งทั้งสองฝั่งคลอง ไม่มีการขุดลอกคลองให้ลึก 4 เมตรตามแผนแม่บทที่กล่าวอ้าง
นายภาณุเมศวร์กล่าวในตอนท้ายว่า ชาวหลักหกได้พยายามร้องถึงความไม่ถูกต้องในเรื่องนี้ไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ดูเหมือนโครงการนี้มีอำนาจพิเศษกำกับอยู่ทำให้ข้าราชการพยายามลอยตัวและอ้างแผนแม่บทฯมาตลอด จึงอยากเพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้รับรู้และรีบหยุดการก่อสร้างทันที เพราะปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว หากยังไม่ระงับการก่อสร้างความเสียหายมหาศาลที่จะเกิดตามมาในภายหลังอาจประเมินค่าไม่ได้