18/05/2024

ส่งออกปี 66​ ส่ออาการหนัก

 

ชี้การส่งออกของไทยติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน แนวโน้มปี66 ฟื้นยาก​ ห่วงค่าเงินบาทแข็ง ดอกเบี้ยขาขึ้นจะยิ่งทรุด แนะดูแลค่าบาทและเร่งสร้างความมั่นใจนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดหนองคาย และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การส่งออกของไทยในเดือนธันวาคมปีที่แล้วลดลงมาก โดยติดลบไปถึง -14.6 % ซึ่งเป็นการส่งออกติดลบติดกันเป็นเดือนที่ 3 โดยเดือนตุลาคมส่งออกติดลบ -4.4% เดือนพฤศจิกายนส่งออกติดลบ – 6.0% และมาติดลบหนักในเดือนธันวาคม ตามที่คณะทำงานะเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้ก่อนแล้ว

 

นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์

 

การติดลบ 3 เดือนติดในปลายปีที่แล้ว ส่งสัญญาณน่ากังวลและจะส่งผลให้โอกาสที่การส่งออกทั้งปี 2566 นี้ ติดลบได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ ที่ไม่น่าจะคาดหวังจากการส่งออกได้ คงได้แต่คาดหวังแต่การท่องเที่ยวเท่าเที่ยวเท่านั้น อีกทั้ง เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะย่ำแย่ และมีโอกาสถดถอยสูงขนาด ธนาคารโลกยังปรับลดการคาดประมาณเหลือเพียง 1.7% จาก 3% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก การลงทุน และ การมท่องเที่ยวของไทยด้วย

นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วจะยิ่งทำให้ราคาสินค้าไทยแพงขึ้น และมีผลกระทบซ้ำเติมกับการส่งออก ซึ่งอยากให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แข็งค่าเกินไป เพื่อส่งเสริมให้การส่งออกดีขึ้น อีกทั้งภาวะอัตราดอกเบี้ยของไทยที่ต่างจากของสหรัฐอเมริกามาก และดอกเบี้ยของไทยก็เริ่มปรับขึ้น โดยล่าสุด ธปท. เพิ่งปรับขึ้นอีก 0.25% เป็น 1.5% ก็อาจส่งผลกระทบให้ค่าบาทแข็งค่าขึ้น การส่งออกอาจจะยิ่งลดลง

ปัญหาหลักที่การส่งออกลดลง น่าจะมาจากการที่การลงทุนของไทยหดหายและลดลงมาตลอดตั้งแต่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ทำให้ประเทศไทย ขาดทิศทางอนาคตว่าประเทศไทยจะมีทิศทางเศรษฐกิจอย่างไร อะไรจะเป็นอุตสาหกรรมของไทยในอนาคต ในขณะที่อุตสาหกรรมที่มีอยู่เดิมได้ล้าสมัยและเสื่อมถอยแล้ว ดังนั้นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้จะต้องเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้การลงทุนของไทยเพิ่มมากขึ้นและมีทิศทางอนาคตของประเทศที่ชัดเจน

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *