โควิด-19 กระทบหนัก ยอดขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ แตะ 30 ล้าน
อชิงตัน, 30 เม.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ (BLS) ระบุว่าจำนวนการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.8 ล้านคน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วประเทศ ทำให้ยอดขอรับสิทธิในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมอยู่ที่ 30 ล้านคน
สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 เม.ย. มีชาวสหรัฐฯ ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลง 603,000 คนจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 3,839,000 คน
ข้อมูลล่าสุดได้รับการเผยแพร่ 1 วันหลังกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่าจีดีพีที่แท้จริงของสหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปี 2020 หดตัวลงร้อยละ 4.8 ต่อปี เนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008
มาตรการปิดเมืองเนื่องด้วยโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคแรงงาน ทำให้ยอดการยื่นขอสวัสดิการว่างงานพุ่งสูงถึง 3 ล้านคน และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มี.ค. ด้วยตัวเลข 3.3 ล้านคน และเพิ่มอีก 3.34 ล้านคน ขึ้นมาอยู่ที่ 6.87 ล้านคนในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค.
ยอดรวมของสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 เม.ย.อยู่ที่ 6.62 ล้านคน และลดลงมาอยู่ที่ 5.2 ล้านคนในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย. ก่อนจะลดต่อเนื่องมาอยู่ที่ 4.4 ล้านคนในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย.
รายงานใหม่ของสำนักงานฯ เผยว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในช่วง 4 สัปดาห์ ซึ่งประเมินเพื่อลดความคลาดเคลื่อนของข้อมูล ลดลง 757,000 คน อยู่ที่ 5 ล้านคน
สำนักงานฯ ระบุว่าโรคโควิด-19 “ยังคงส่งผลกระทบต่อยอดการยื่นขอสวัสดิการว่างงานและการประกันว่างงานอย่างต่อเนื่อง”
รายงานระบุว่าอัตราประกันว่างงานฉบับปรับแก้ตามฤดูกาลของสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. อยู่ที่ร้อยละ 12.4 เพิ่มขึ้น 1.5 จุดจากอัตราเดิมของสัปดาห์ก่อน
การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในรอบครึ่งปีของสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน ซึ่งได้รับการเผยแพร่ช่วงต้นเดือนเมษายนระบุว่า ผลผลิตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะหดตัวร้อยละ 8.0 ในปี 2020 และอัตราการว่างงานจะพุ่งสูงสุดราวร้อยละ 20 ช่วงต้นฤดูร้อน
ที่มา xinhuathai.com