สำนักข่าวกรองสหรัฐฯ เผย โควิด-19 ‘ไม่ได้เกิดจากฝีมือมนุษย์หรือดัดแปลงพันธุกรรม’

วอชิงตัน, 1 พ.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) สำนักข่าวกรองชั้นนำของสหรัฐอเมริกาเผยว่าชุมชนข่าวกรองของสหรัฐฯ ไม่เชื่อว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้นถูกผลิตขึ้นโดยฝีมือมนุษย์หรือดัดแปลงพันธุกรรม

สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (ODNI) กล่าวในแถลงการณ์ว่า ชุมชนข่าวกรองของสหรัฐฯ “เห็นพ้องกับมติส่วนใหญ่ของนักวิทยาศาสตร์ว่าไวรัสโรคโควิด-19 ไม่ได้ถูกสร้างโดยมนุษย์หรือดัดแปลงพันธุกรรม”

สำนักงานฯ กล่าวว่ากำลังตรวจสอบว่าไวรัสเกิดขึ้นจากห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่นของจีนจริงหรือไม่ แม้ว่าข่าวลือดังกล่าวจะถูกปฏิเสธจากในหมู่นักวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายครั้งก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปเชื่อว่าไวรัสแพร่ระบาดข้ามจากสัตว์มาสู่มนุษย์ด้วยวิถีทางธรรมชาติ อันเกี่ยวข้องกับการเกษตร การล่าสัตว์ หรือการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่า

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) โดยอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐสหรัฐฯ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ว่าเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของทรัมปได้เร่งให้สำนักข่าวกรองหาหลักฐานเพื่อสนับสนุนทฤษฎีที่ไม่มีมูลว่าห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่นเป็นต้นตอของการระบาด ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขยายแนวคิดกล่าวโทษประเทศจีนในเรื่องการระบาดใหญ่สู่สาธารณชน

รายงานระบุว่านักวิเคราะห์ข่าวกรองบางคนกังวลว่าแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะบิดเบือนการประเมินเกี่ยวกับไวรัส และพวกเขาอาจถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมือง

ไมก์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) เป็นแกนนำในการผลักดันหน่วยงานข่าวกรองให้หาข้อมูลเพิ่มเติม ด้านแมทธิว พอตติงเกอร์ รองที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ได้กดดันหน่วยงานข่าวกรองตั้งแต่เดือนมกราคม ให้รวบรวมข้อมูลที่ “อาจสนับสนุนทฤษฎีต้นกำเนิดไวรัสที่เชื่อมโยงกับห้องปฏิบัติการ”

รายงานยังกล่าวอีกว่าแอนโธนี รุกเกโร หัวหน้าฝ่ายติดตามอาวุธที่มีอานุภาพทำลายสูงของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติแสดงความไม่พอใจระหว่างการประชุมทางวิดีโอเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าซีไอเอ (CIA) ไม่สามารถอยู่เบื้องหลังทฤษฎีเกี่ยวกับต้นตอการระบาดของโรคใดๆ ได้

หน่วยงานข่าวกรองส่วนใหญ่ยังคงไม่เชื่อว่าจะพบหลักฐานที่จะเชื่อมโยงไปยังห้องปฏิบัติการ และนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก็ระบุว่าความน่าจะเป็นอย่างยิ่งยวดคือ ไวรัสแพร่ระบาดจากสัตว์มาสู่มนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ห้องปฏิบัติการ เช่นเดียวกับกรณีของเชื้อเอชไอวี (HIV) อีโบลา (Ebola) และโรคซาร์ส (SARS)

ในขณะที่ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา คณะบริหารของทรัมป์และพันธมิตรในสภาคองเกรสได้พยายามเบี่ยงเบนข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความผิดพลาดของพวกเขาโดยการกล่าวโทษผู้อื่น

อนึ่ง ข้อมูลล่าสุดของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ เวลา 9.30 น. ของวันศุกร์ (1 พ.ค.) ระบุว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกามากกว่า 1.06 ล้านราย มีผู้เสียชีวิตกว่า 63,000 ราย

ที่มา xinhuathai.com