20/04/2024

โลกของจีน : จีนกำลังฟื้นไข้ โลกกำลังบรรลัย

          ถ้าเปรียบเทียบกับ TRADE WAR หรือ สงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาพยายามหาเรื่องถล่มจีน  อ้างสารพัดเรื่องมาตั้งกำแพงภาษีเพื่อสกัดกั้นสินค้าจีนที่ส่งออกไปขายทำกำไรทั่วโลกโดยเฉพาะในตลาดอเมริกาที่คนอเมริกันก็ไม่ปฏิเสธของดีราคาถูก 

แต่อเมริกาขาดดุลการค้าบักโกรก  จนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ประกาศนโยบาย AMERICA FIRST “กูต้องเป็นใหญ่  ใครค้าขายเอากำไรกูไม่ได้”

          ทรัมป์นึกว่าวันนี้เหมือนในอดีตที่อยากจะใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่ข่มเหงใครก็ได้  ฝันว่าจะดีดนิ้วสั่งจีนได้ง่ายๆ  แต่ลืมไปว่าจีนวันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน  แม้จะได้รับผลกระทบแต่จีนก็พร้อมจะสู้  ขณะที่ระบบการค้าโลกพากันอกสั่นขวัญหายกับผลกระเทือนที่จะตามมาหากสองมหาอำนาจโลกทำสงครามการค้ากันแบบเต็มกำลัง

          กระนั้นก็ตามสงครามการค้ากลายเป็นเรื่องเล็กไปทันใดเมื่อไวรัส COVID-19 แผลงฤทธิ์แบบไม่คาดฝัน  แบบไม่ทันตั้งตัว  เพราะรวดเร็ว รุนแรง  ตอนนี้ลามเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก  นอกจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่รับไปเต็มๆในด่านแรกจากบริษัททัวร์  สายการบิน โรงแรมที่พักทุกระดับขาดทุนกันถ้วนหน้าเพราะนักท่องเที่ยวหดหาย  มาถึงด่านนี้ก็เริ่มส่งผลต่อในภาคการผลิต  การค้าระหว่างประเทศ และภาคบริการ

          เพราะจากจีนที่เป็นจุดกำเนิดของไวรัส  จีนยังเป็นฐานการผลิตใหญ่ของโลก  ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งป้อนวัตถุดิบของภาคเกษตรและอุตสาหกรรมไปยังนานาประเทศทั่วโลก  ช่วงที่จีนปิดเมือง ปิดโรงงาน หยุดการผลิตเพื่อสกัดกั้นไวรัส  นานาประเทศยังพอมีสต๊อกหรือหันไปสั่งจากแหล่งอื่นได้  แต่พอไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลก   ก็ย่อมส่งผลในลักษณะเดียวกันกับที่เคยเกิดในจีนคืออาจจะต้องหยุดผลิต ปิดโรงงานชั่วคราว  แล้วใครจะซื้อใคร  ใครจะขายใคร

          ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของจีนประเมินว่า  GDP ของจีนปีนี้ทั้งปีจะลดลงแน่ 0.5-1 % โดยช่วงต้นปีมีผลกระทบมาก  เมื่อสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสได้ก็จะฟื้นตัวใมนช่วงปลายปี 

          สอดคล้องกับ “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ” หรือ IMF ที่แถลงคาดการณ์เมื่อเร็วๆนี้ว่า  เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกของปีนี้ได้รับผลกระทบจากCOVID-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  แต่เมื่อเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้  จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเริ่มลดน้อยลง  จำนวนคนหายป่วยเพิ่มมากขึ้น  ภาคการผลิตเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งและน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนมีนาคม

          สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ประมาณ 40 คน จากเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และสหรัฐอเมริกา  ส่วนใหญ่ตอบในทิศทางเดียวกันว่า COVID-19 ไม่มีผลต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีน เศรษฐกิจจีนยังจะไปได้ดีและจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สอง  และเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว

         บางคนยังเชื่อด้วยซ้ำว่าหลังการฟื้นตัว  เศรษฐกิจจีนยังจะก้าวทะยานอย่างรวดเร็วกว่าเก่าแบบก้าวกระโดด  เพราะจีนได้รับบทเรียนอันมีค่าหลายๆด้าน  ได้มีโอกาสสร้างนวัตกรรมใหม่ๆมากมายในช่วงวิกฤติ  ได้มีโอกาสจัดระเบียบเรียกความพร้อมระบบราชการ  ตรวจสอบความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนในชาติ  เสมือนได้เรียนรู้เคล็ดวิชาบทใหม่ที่จะทำให้จีนแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

          นักวิชาการจีนท่านหนึ่งกล่าวว่า  การแพร่ระบาดของโรคครั้งนี้เป็นบทเรียนใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจีนในยุคต่อไป  รวมถึงการปฏิรูปธุรกิจและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ  หลังจากการแพร่ระบาดของโรคจบสิ้นลงแล้วอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรทางสังคม  มีรูปแบบใหม่ทางเศรษฐกิจและธุรกิจเกิดขึ้นอีกมากมาย   และนั่นอาจนำจีนไปสู่การพัฒนาถึงขีดสูงสุดรอบใหม่ก็เป็นได้

              น่าสังเกตุว่าในจังหวะที่จีนสามารถควบคุมไวรัสในบ้านตัวเองได้สำเร็จ  และกำลังพูดถึงการฟื้นตัวกับการเดินต่อไปข้างหน้า  นานาประเทศ(รวมทั้งไทย)ต่างยังอยู่ในภาวะแตกตื่นกับจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มจำนวนขึ้น  การวิ่งหาหน้ากากป้องกันตัวเอง  การนั่งดูธุรกิจที่กำลังพัง  และความรู้สึกสิ้นหวังต่ออนาคต

โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ

หมายเหตุ : ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์​อปท.นิวส์​ ฉบับที่328 ปีที่13​ วันที่16-31มีนาคม​ พ.ศ.2563

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *