19/04/2024

โลกของจีน : มังกรเป็นไข้(อู่ฮั่น) จาม-ไอ กันทั้งโลก

           หลังจากเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ของสาธารณรัฐประชาชนจีนไปอย่างยิ่งใหญ่ช่วงปลายปี 2019 แล้ว

หลายคนตั้งตารอดูเทศกาลตรุษจีน 2020 ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าจีนน่าจะจัดหนักจัดเต็มให้สมกับปีเป้าหมายที่ตั้งไว้นานแล้วว่า “ ปี 2020 จีนจะเลิกจน”

          แต่นอกจากจะไม่มีเสียงประทัดและปี่กลองที่สร้างความสนุกสนานแล้ว  ชาวจีนทั้งประเทศยังจมอยู่กับความตื่นกลัว “โรคปอดอักเสบรุนแรงที่มาจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” ที่แพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย กระจายไปทั่วแผ่นดินมังกรและนานาประเทศอีกเกือบ 30 ประเทศ  จนมีผู้ติดเชื้อถึง 40,128  คน และผู้เสียชีวิตรวม 906 คน (ข้อมูล ณ 10 ก.พ.2563) ซึ่งแนมโน้มยังจะขยายตัวต่อไปเรื่อยๆเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้สามารถแพร่จากคนสู่คนตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือรักษา

          ตั้งแต่ก่อนตรุษจีนโลกได้เห็นความเด็ดขาดฉับไวของรัฐบาลจีนที่ใช้มาตรการเข้มข้นในการพยายามสกัดยับยั้งการแพร่ระบาดโดยการสั่งปิดล้อมเมืองอู่ฮั่น และอีกนับ 10 เมืองที่เกิดการแพร่ระบาด  นอกจากนี้ยังระดมสรรพกำลังและงบประมาณมหาศาลเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย  มีการสั่งสร้างโรงพยาบาลขนาดกว่า 1,000เตียง 2 แห่ง เพื่อรองรับคนป่วย  มีการระดมแพทย์และพยาบาลนับพันคนส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตควบคุมโรค  แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ทันท่วงที  เพราะช่วงจังหวะนั้นคนจีนหลายสิบล้านคนได้ออกเดินทางเพื่อกลับบ้านเกิด  หรือไปเยี่ยมญาติพี่น้อง  ออกเที่ยวในประเทศและอีกจำนวนไม่น้อยที่ไปเที่ยวต่างประเทศ

          แรกๆนั้นทั่วโลกเฝ้ามองจีนด้วยความคาดหวังว่าจะควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้ด้วยสไตล์ของรัฐบาลจีนที่รวดเร็ว ฉับไว ทำจริง  เด็ดขาด  แม้แต่ผู้บริหารองค์การอนามัยโลก  ยังบอกว่าจีนน่าจะเอาอยู่  แต่ครั้นยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ววันละ 2-3 พันราย แถมยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มเป็นวันละ 40-50 คน  องค์การอนามัยโลก ยังต้องประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ  ซึ่งมีผลให้หลายประเทศประกาศงดรับคนที่เดินทางไปจากประเทศจีน  เพราะกลัวจะเอาเชื้อไปแพร่ระบาดในประเทศเขา

           ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวจีนนั้นตอนแรกตรวจพบนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยเป็นผู้ติดเชื้อ4-5 รายก็ยังไม่เท่าไรเพราะทั้งหมอหนู –นายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขยันออกข่าวทุกวันว่ามีระบบคัดกรองที่ดี  นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า “เอาอยู่ 100%” แต่หลังจากนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยที่ตรวจพบก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว  โชว์เฟอร์แท็กซี่ที่เป็นคนไทยและไม่เคยไปจีนยังติดเชื้อไวรัสโคโรนามาด้วย

          ไทยเรายามนี้เข้าตำราผีซ้ำดั้มพลอย นอกจากจะเจอปัญหาการส่งออก  เจอผลกระทบสงครามการค้าจีน-อเมริกา  เจอภัยแล้งในรอบหลายปี  เจอปัญหางบประมาณแผ่นดินสะดุด  เจอฝุ่นPM 2.5  พอขึ้นศักราชใหม่ไหว้พระขอพรไปได้ไม่กี่วันกลับต้องมาเจอปัญหาไวรัสอู่ฮั่นซึ่งมาเร็วมาแรงแบบไม่ทันตั้งตัว  แถมยังทำท่าจะยาวนานเป็นปัญหาใหญ่กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนีไม่พ้น  เพราะเศรษฐกิจไทยฝากผีฝากไข้ไว้กับนักท่องเที่ยวจีนปีละ 10 ล้านคน เทียบเท่า 1 ใน 5 ของGDP

           ปี 2562 ยอดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยประมาณ 11.1 ล้านคน  ทำเงิน 5.5-5.6 แสนล้านบาท  ปี 2563 คาดว่าจะขยับเพิ่มเล็กน้อยเป็น 11.3 ล้านคน   แถมบางคนยังฝันไกลถึงปี 2030 ว่านักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยจะเพิ่มเป็น 23 ล้านคน

          แต่หลังตรุษจีนแล้วนักท่องเที่ยวจีนเริ่มหดหาย  เพราะคำสั่งรัฐบาลจีนนอกจากสั่งหยุดแหล่งบันเทิงต่างๆแล้วยังสั่งหยุดเที่ยวหยุดทัวร์  ผลที่ตามมาวันนี้และวันหน้าคืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่พึ่งพาตลาดจีนคงเดี้ยงยาว 3-6 เดือน นั่นคือจนกว่าไวรัสอู่ฮั่นจะหยุดระบาด และรัฐบาลจีนมั่นใจว่าสามารถปล่อยคนจีนออกท่องโลกได้อีกครั้งโดยไม่แพร่เชื้อแก่ชาวโลก

          จงกั๋วเจียโหย่ว   ไท่กั๋วเจียโหย่ว  จีนสู้ๆ  ไทยสู้โว้ย…

โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ

หมายเหตุ : หนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 326 วันที่ 16-29 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *