โลกของจีน : มังกรเป็นไข้(อู่ฮั่น) จาม-ไอ กันทั้งโลก
หลังจากเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ของสาธารณรัฐประชาชนจีนไปอย่างยิ่งใหญ่ช่วงปลายปี 2019 แล้ว
หลายคนตั้งตารอดูเทศกาลตรุษจีน 2020 ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่าจีนน่าจะจัดหนักจัดเต็มให้สมกับปีเป้าหมายที่ตั้งไว้นานแล้วว่า “ ปี 2020 จีนจะเลิกจน”
แต่นอกจากจะไม่มีเสียงประทัดและปี่กลองที่สร้างความสนุกสนานแล้ว ชาวจีนทั้งประเทศยังจมอยู่กับความตื่นกลัว “โรคปอดอักเสบรุนแรงที่มาจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” ที่แพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย กระจายไปทั่วแผ่นดินมังกรและนานาประเทศอีกเกือบ 30 ประเทศ จนมีผู้ติดเชื้อถึง 40,128 คน และผู้เสียชีวิตรวม 906 คน (ข้อมูล ณ 10 ก.พ.2563) ซึ่งแนมโน้มยังจะขยายตัวต่อไปเรื่อยๆเพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้สามารถแพร่จากคนสู่คนตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือรักษา
ตั้งแต่ก่อนตรุษจีนโลกได้เห็นความเด็ดขาดฉับไวของรัฐบาลจีนที่ใช้มาตรการเข้มข้นในการพยายามสกัดยับยั้งการแพร่ระบาดโดยการสั่งปิดล้อมเมืองอู่ฮั่น และอีกนับ 10 เมืองที่เกิดการแพร่ระบาด นอกจากนี้ยังระดมสรรพกำลังและงบประมาณมหาศาลเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย มีการสั่งสร้างโรงพยาบาลขนาดกว่า 1,000เตียง 2 แห่ง เพื่อรองรับคนป่วย มีการระดมแพทย์และพยาบาลนับพันคนส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตควบคุมโรค แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ทันท่วงที เพราะช่วงจังหวะนั้นคนจีนหลายสิบล้านคนได้ออกเดินทางเพื่อกลับบ้านเกิด หรือไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ออกเที่ยวในประเทศและอีกจำนวนไม่น้อยที่ไปเที่ยวต่างประเทศ
แรกๆนั้นทั่วโลกเฝ้ามองจีนด้วยความคาดหวังว่าจะควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้ด้วยสไตล์ของรัฐบาลจีนที่รวดเร็ว ฉับไว ทำจริง เด็ดขาด แม้แต่ผู้บริหารองค์การอนามัยโลก ยังบอกว่าจีนน่าจะเอาอยู่ แต่ครั้นยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ววันละ 2-3 พันราย แถมยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มเป็นวันละ 40-50 คน องค์การอนามัยโลก ยังต้องประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งมีผลให้หลายประเทศประกาศงดรับคนที่เดินทางไปจากประเทศจีน เพราะกลัวจะเอาเชื้อไปแพร่ระบาดในประเทศเขา
ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวจีนนั้นตอนแรกตรวจพบนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยเป็นผู้ติดเชื้อ4-5 รายก็ยังไม่เท่าไรเพราะทั้งหมอหนู –นายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขยันออกข่าวทุกวันว่ามีระบบคัดกรองที่ดี นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า “เอาอยู่ 100%” แต่หลังจากนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยที่ตรวจพบก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว โชว์เฟอร์แท็กซี่ที่เป็นคนไทยและไม่เคยไปจีนยังติดเชื้อไวรัสโคโรนามาด้วย
ไทยเรายามนี้เข้าตำราผีซ้ำดั้มพลอย นอกจากจะเจอปัญหาการส่งออก เจอผลกระทบสงครามการค้าจีน-อเมริกา เจอภัยแล้งในรอบหลายปี เจอปัญหางบประมาณแผ่นดินสะดุด เจอฝุ่นPM 2.5 พอขึ้นศักราชใหม่ไหว้พระขอพรไปได้ไม่กี่วันกลับต้องมาเจอปัญหาไวรัสอู่ฮั่นซึ่งมาเร็วมาแรงแบบไม่ทันตั้งตัว แถมยังทำท่าจะยาวนานเป็นปัญหาใหญ่กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนีไม่พ้น เพราะเศรษฐกิจไทยฝากผีฝากไข้ไว้กับนักท่องเที่ยวจีนปีละ 10 ล้านคน เทียบเท่า 1 ใน 5 ของGDP
ปี 2562 ยอดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยประมาณ 11.1 ล้านคน ทำเงิน 5.5-5.6 แสนล้านบาท ปี 2563 คาดว่าจะขยับเพิ่มเล็กน้อยเป็น 11.3 ล้านคน แถมบางคนยังฝันไกลถึงปี 2030 ว่านักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยจะเพิ่มเป็น 23 ล้านคน
แต่หลังตรุษจีนแล้วนักท่องเที่ยวจีนเริ่มหดหาย เพราะคำสั่งรัฐบาลจีนนอกจากสั่งหยุดแหล่งบันเทิงต่างๆแล้วยังสั่งหยุดเที่ยวหยุดทัวร์ ผลที่ตามมาวันนี้และวันหน้าคืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่พึ่งพาตลาดจีนคงเดี้ยงยาว 3-6 เดือน นั่นคือจนกว่าไวรัสอู่ฮั่นจะหยุดระบาด และรัฐบาลจีนมั่นใจว่าสามารถปล่อยคนจีนออกท่องโลกได้อีกครั้งโดยไม่แพร่เชื้อแก่ชาวโลก
จงกั๋วเจียโหย่ว ไท่กั๋วเจียโหย่ว จีนสู้ๆ ไทยสู้โว้ย…
โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ
หมายเหตุ : หนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ ปีที่ 13 ฉบับที่ 326 วันที่ 16-29 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563