25/04/2024

ตลาดอสังหาฯ ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี

 

โดย…..ดร.โสภณ พรโชคชัย

ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี เป็นพื้นที่หนึ่งที่น่าจับตามองเป็นพิเศษในประเทศไทยของเรา เพราะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญรองจากชลบุรี-ระยอง ขาดเพียงไม่มีแหล่งอุตสาหกรรมเยี่ยงภาคตะวันออก

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ชี้ให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ต่อเนื่องจนถึงอำเภอหัวหิน และปราณบุรีของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น ในขณะนี้หลังจากการผ่อนคลายจากโรคระบาดโควิด-19 แล้ว ก็มี

นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวเช่นหัวหิน เป็นพื้นที่ลำดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจเป็นพิเศษ

สำหรับชะอำ การพัฒนาโครงการส่วนใหญ่เป็นวิลล่าริมชายหาด หรือไม่ก็อยู่โซนชายหาดใกล้ชายหาดโดยห่างออกไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เป็นโซนที่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะยุโรป ที่มีภรรยาคนไทย ซื้อไว้เป็นบ้านพัก ได้รับความนิยมดี ส่วนพื้นที่ติดถนนสายหลัก  คือ ถนนเพชรเกษม การพัฒนาส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบโครงการอาคารชุด ซึ่งยอดขายไม่มากนัก จากการสอบถามพบว่าผู้ซ้อส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่น เช่น จากกรุงเทพมหานคร ซื้อเก็บไว้เวลามาพักผ่อน  ดังนั้นในช่วงวันธรรมดา จะเงียบมาก ส่วนช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีลูกค้าที่ซื้อห้องไว้มาพักกันคึกคัก

 

 

โซนหัวหิน เป็นโซนที่มีโครงการจัดสรรมาก ทั้งอาคารชุดติดถนนเพชรเกษม และวิลล่าโซนภูเขา รวมไปถึงโครงการจัดสรรทั้งที่พัฒนาเพื่อขายคนในท้องที่กันเอง เช่น ทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ระดับ 1-2 ล้านบาท บ้านแฝดชั้นเดียว ระดับราคา 1.6-2.3 ล้านบาท บ้านเดี่ยวชั้นเดียว ระดับราคา 2.3-3. ล้านเป็นส่วนใหญ่ เพราะแป็นราคาที่ไม่แพงเกินไปสำหรับ “มนุษย์เงินเดือน”  นอกจากนี้หากเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น  หรือ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับราคาขายอยู่ในช่วง 3–5 ล้านบาทเสียเป็นส่วนใหญ่   การพัฒนาประเภทอาคารชุดพักอาศัยไม่ได้เกิดขึ้นในขณะนี้

ส่วนปราณบุรี ยังเป็นโซนที่เงียบสงบ ฝั่งชายหาด โครงการจัดสรรที่เปิดขาย ยอดจองไม่ค่อยขยับมากนัก เนื่องจากทำเล อยู่ช่วงกลางระหว่าง หัวหิน-อุทธยานปราณบุรี  ทำเลอยู่ห่างจากหัวหินที่เป็นโซนคึกคัก แหล่งท่องเที่ยว สถานบันเทิงต่างๆ จึงเหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเงียบสงบ ความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตามโครงการอาคารชุดของบริษัทมหาชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ติดชายหาด เปิดโครงการมาได้ 7 ปีแล้ว แต่มียอดขายอยู่เพียง 60% ดังนั้นจึงเชื่อว่ายังไม่ใช่โซนที่ควรแก่การพัฒนาโครงการเมื่อเปรียบเทียบความคึกคักกับโซนหัวหินนั่นเอง

สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่พัฒนาและมีลูกค้าให้ความนิยมมาก คือ กลุ่มบริษัทมหาชน อย่าง บมจ.แอล.พี.เอ็น. ที่พัฒนาพัฒนาอาคารชุดโซนติดหาด  บมจ.ศุภาลัยที่พัฒนาอาคารชุด ที่มียอดซื้อและปิดการขายไปแล้วหลายทำเล), และ บมจ.ชาญอิสสระดีเวล็อปเมนท์ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นอย่าง เดอะเบสโฮมพลัส, ฟูลริชแอสเซท เปิดโครงการอย่างต่อเนื่องหลังจากโครงการเดิมใกล้ปิดการขาย

ณ สิ้นปี 2565 ยังมีโครงการเปิดขายใหม่ ประมาณ 5 โครงการ เป็นการพัฒนาของผู้ประกอบการท้องถิ่น 3 โครงการ โดยพัฒนาเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝดชั้นเดียว และบ้านเดี่ยวชั้นเดียว และ บริษัทมหาชน 2 โครงการ ได้แก่ วีรันดา รีสอร์ท พัฒนาวิลล่าใกล้หาดราคา 17.3 – 45 ล้านบาท และ บมจ.ศุภาลัย พัฒนาอาคารชุดที่ขายในราคาเริ่มต้นที่ 58,000 บาท/ตารางเมตร

        คาดว่าในปี 2566 สถานการณ์จะคลี่คลายขยายตัวมากขึ้นกว่าปี 2565 ตลาดจะกลับมาคึกคักกว่าปี 2565 ประมาร 15-20% เลยทีเดียว

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *