ชาวไต้หวันเทพรรคDPP เปลี่ยนใจเลือกก๊กมินตั๋ง
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี หัวหน้าเขตและสมาชิกสภาท้องถิ่น ของสาธารณรัฐจีนหรือ “ไต้หวัน”เมื่อวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 จากทั้งหมด 21 ที่นั่ง ปรากฏว่าพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่เป็นฝ่ายค้านกวาดไปได้ 13 ที่นั่ง มีชัยชนะเหนือพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ฝ่ายรัฐบาล ที่มีประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งได้ไปเพียง 5 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นของพรรคประชาชนไต้หวัน 1 ที่นั่ง ผู้สมัครอิสระ 2 ที่นั่ง
ผลที่ออกมาดังกล่าวทำให้ ไช่ อิงเหวิน แสดงความรับผิดชอบด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค DPP ทันทีโดยกล่าวว่า “เราไม่มีเวลามานั่งเสียใจ เราจะลุกขึ้นอีกครั้ง” อย่างไรก็ตามเธอจะยังทำหน้าที่ประธานาธิบดีไปจนครบวาระในปี 2024
เมื่อครั้งต้อนรับนางแนนซี เพโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เยือนไต้หวันอย่างท้าทาย
มีการวิเคราะห์เบื้องต้นถึงสาเหตุการพ่ายแพ้การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นของพรรคDPPว่า เป็นเพราะการวางยุทธศาสตร์การหาเสียงที่ผิดพลาด มีการกล่าวถึงนโยบายระดับชาติต่อต้านจีน วิพากษ์วิจารณ์ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เพิ่งต่ออายุสมัยที่ 3 มากเกินไป ทั้งๆที่จีนเพิ่งแสดงแสนยานุภาพซ้อมรบใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ ถึงขั้นยิงจรวดข้ามหัวเกาะไต้หวัน จากความไม่พอใจในกรณีไต้หวันให้การต้อนรับการมาเยือนของนางแนนซี เพโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา แสดงอาการโปรอเมริกาท้าทายจีนอย่างแรง
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ไช่ อิงเหวิน กำลังเดินตามนางเพโรซีที่เพิ่งพ้นตำแหน่งประธานสภาล่างจากความพ่ายแพ้การเลือกตั้งกลางเทอมของพรรคเดโมแครต และภายใน2ปีข้างหน้า ไช่ อิงเหวิน จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี 2 สมัย ส่วนประธานาธิบดี โจ ไบเดน มีแนวโน้มสูงว่าจะไม่ได้กลับมาในสมัยที่ 2 เพราะคะแนนนิยมอยู่ในช่วงขาลง