ม็อบเมียนมาต้านรัฐประหาร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้วที่ประชาชนชาวเมียนมาออกมาร่วมชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพเมียนมาพร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และประธานาธิบดีวิน มนิยต์ ที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์
การต่อต้านแบบอารยะขันขืนที่เริ่มจากการเคาะถังตีกะละมังแล้วรวมตัวเป็นการชุมนุมประท้วงตามท้องถนนเกิดขึ้นทั้งในกรุงย่างกุ้ง เนปิดอว์ มัณฑะเลย์ ทวาย เมียวดี ท่าขี้เหล็ก ฯลฯ โดยมีการทั้งชูป้าย ชูรูปนางอองซาน ติดริบบิ้นแดงและดำ รวมทั้งแสดงสัญญลักษณ์ชู 3 นิ้ว โดยที่ผ่านมามีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกมาตั้งด่าน หรือสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ประท้วงในบางจุด แต่ยังไม่ปรากฏว่าทางกองทัพจะออกมาดำเนินการอย่างไร
ในวันแรกๆของการรัฐประหารได้มีการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ทและปิดโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยเฉพาะการธนาคาร มาถึงปัจจุบันเริ่มมีการปล่อยสัญญาณบ้างจึงทำให้การนัดชุมนุมและกระแสการต่อต้านกองทัพเติบโตในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เสียงเรียกร้องของผู้ประท้วงคือให้คืนประชาธิปไตยไม่ต้องการรับใช้รัฐบาลทหาร นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้ร่วมกันสไตร์คผละงานโดยเริ่มปรากฏในบุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรก
ปฏิกิริยาจากนานาชาตินั้นกลุ่มชาติประชาธิปไตยตะวันตกส่วนใหญ่แสดงการคัดค้านกองทัพเมียนมาและเรียกร้องให้ปล่อยนักการเมืองที่ถูกควบคุมตัว โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ประกาศว่า “จะยืนหยัดอยู่กับประชาชนเมียนมาที่ปรารถนาประชาธิปไตย เสรีภาพ สันติภาพและการพัฒนา” ในขณะที่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้สงวนท่าทีพร้อมใช้สิทธิคัดค้านสหประชาชาติที่จะออกแถลงการณ์ประณามกองทัพเมียนมาหรือออกมาตรการคว่ำบาตร โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้สถานการณ์เลวร้าย