26/04/2024

ที่อยู่อาศัยใหม่สิงหาคม 65 เปิดตัวคึกคัก พร้อมโครงการขายดี

 

 

สัญญาณดี! ที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในเดือนสิงหาคม 2565 สุดคึกคัก มาเช็คโครงการโดดเด่น ที่เปิดแล้ว ขายได้ดีมากทันที

ดร.โสภณ พรโชคชัยประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เปิดเผยถึงการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเดือนสิงหาคม ว่ามีจำนวน 36 โครงการ เป็นที่อยู่อาศัย 35 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ  อีก 1 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่รวม 9,596 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 43,363  ล้านบาท

จำนวนหน่วยขายเปิดใหม่เดือนสิงหาคม 2565 มีจำนวนหน่วยรวม 9,596 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ประมาณ 54% โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ยังคงเป็นอาคารชุดเหมือนเดือนที่ผ่านมา มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ 4,568 หน่วย (47.6%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 2,156 หน่วย (22.5%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 1,472 หน่วย (15.3%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

มูลค่าพัฒนาโครงการในเดือนสิงหาคม 2565 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 43,363 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ประมาณ 56.6% ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยว 44.9% รองลงมาคือ อาคารชุด 19.3% ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 17.8% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ระดับราคาของที่อยู่อาศัยในเดือนนี้หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จะเน้นราคา 2-3 ล้านบาท และอาคารชุดที่ราคา 2-3 ล้านบาท ซึ่งระดับราคาขายจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา  อัตราการขายในเดือนแรกของการเปิดขายเฉลี่ย 18% ต่อเดือน

เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 8 บริษัท คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) ) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป

 

 

ในด้านทำเลที่ตั้ง สำหรับอาคารชุดที่เปิดขายจะตั้งอยู่ในบริเวณเขตกรุงเทพฯ ชั้นกลาง ตามแนวรถไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดใช้และส่วนต่อขยาย เช่น ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนพหลโยธิน-สะพานใหม่ ถนนบางนา-ตราด เป็นต้น ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่ส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก สมุทรปราการ และนนทบุรี เป็นสำคัญ เช่น ถนนรามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา ถนนศรีนครินทร์ ถนนบางนา-ตราด ถนนกิ่งแก้ว ถนนเทพารักษ์ ถนนเพชรเกษม ถนนบางกรวย-ไทรน้อย เป็นต้น

หากเปรียบเทียบจำนวนโครงการที่เปิดใหม่ 8 เดือนแรก 2565 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม 246 โครงการ มากกว่า 8 เดือนแรก 2564 จำนวน 72 โครงการ หรือเพิ่มขึ้น 41.4% (8 เดือนแรก 2564 มีจำนวน 174 โครงการ) มีมูลค่าโครงการรวม 265,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97,941 ล้านบาท หรือ 58.4% (8 เดือนแรก 2564 มีมูลค่า 167,588 ล้านบาท) มีจำนวนหน่วยขายรวม 68,894 หน่วย เพิ่มขึ้น 36,008 หน่วย หรือเพิ่ม 109.5% (8 เดือนแรก 2564 มีจำนวน 32,886 หน่วย) ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน

สำหรับโครงการเด่นและขายดีเดือนนี้ นำเสนอ 2 โครงการ คือโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา  บ้านเดี่ยวราคาแพง าและโครงการ คอนโด มี สินสาคร อาคาร A-B คอนโดราคาค่อนข้างถูกสำหรับคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งทั้ง 2 โครงการขายเกือบหมดในเดือนแรกที่เปิดตัว โดยมีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้

โครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา  ซอยประชาร่วมใจ ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า พัฒนาโดย บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ระดับ Luxury ราคาขายหน่วยละ 55 – 90 ล้านบาท จับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้ปกครองโรงเรียนนานาชาติ และกลุ่มชาวจีน มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 86 หน่วย ขายได้แล้ว 79 หน่วย (92%) รายการส่งเสริมการขาย เช่น ชุดครัวไทย พร้อมส่วนเตรียมอาหาร ผนังติดวอลล์เปเปอร์ทั้งหลัง ปั๊มน้ำ ถังสำรองน้ำ จัดสวนลงต้นไม้ใหญ่ เครื่องปรับอากาศทุกห้องนอน พร้อม Junction รองรับ EV Charger ระบบ VDO Door Phone และ Solar Rooftop ในบ้านทุกหลัง

คอนโด มี สินสาคร อาคาร A-B   ซอยเจษฎาวิถี ถนนพระราม 2 พัฒนาโดย บริษัท คิวที ไลฟ์สไตล์ จำกัด อาคารชุด 5 ชั้น จำนวน 2 อาคาร (เฉพาะอาคาร A-B) พื้นที่ใช้สอย 24.75-25.00 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 1.238 ล้านบาท จำนวนหน่วยขาย ทั้งหมด 98 หน่วย ขายได้แล้ว 79 หน่วย (81%)  มีรายการส่งเสริมการขาย เช่น รับเฟอร์นิเจอร์ตามมาตรฐานโครงการ เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าส่วนกลาง 1 ปีกลุ่มเป้าหมาย พนักงานในนิคมอุตสาหกรรม คนทำงานในละแวกใกล้เคียง และนักลงทุนบางส่วน (สัดส่วนผู้ซื้ออยู่อาศัย 60% : เก็งกำไร 20% : เพื่อการลงทุน 20%)  จุดเด่นของโครงการ ใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรม ราคาสามารถจับต้องได้ และชื่อเสียงของผู้ประกอบการ

สถิติการเปืดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ที่สุดคึกคักในเดือนสิงหาคม 2565 นี้ ชี้ให้เห็นแนวโน้มตลาด ‘ขาขึ้น’ ในปี 2565 นี้ ซึ่ง ดร.โสภณคาดว่าจะมีหน่วยขายเปิดใหม่ถึงแสนหน่วยทั้งที่ในปี 2564 เปิดใหม่เพียง 60,000 หน่วย จะเกิดภาวะล้นตลาดหรือไม่ ต้องติดตามโดยใกล้ชิด

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *