คุณหญิงกัลยา ขอบคุณทุกภาคส่วน ปิดฉากงานสัมมนาการบริหารจัดการน้ำนานาชาติ ครั้งแรกในประเทศไทยสมบูรณ์แบบ ดันหลักสูตรชลกรขึ้นชั้นเวทีสากล

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอบคุณทุกภาคส่วน ปิดฉากงานสัมมนาการบริหารจัดการน้ำนานาชาติ ครั้งแรกในประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ เชื่อองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญน้ำทั่วโลกจะเป็นประโยชน์กับสังคมไทยและสังคมโลก พร้อมขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ต่อเนื่อง ปลื้มผู้เชี่ยวชาญน้ำทั่วโลกหนุนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ฯ สร้างประโยชน์ด้านการศึกษาและประเทศไทย

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกองทุนบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ และประธานการจัดงานสัมมนาการบริหารจัดการน้ำนานาชาติ กล่าวว่า ขอขอบคุณพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ให้การสนับสนุนและร่วมแรงร่วมใจ จนการดำเนินงานสัมมนาการบริหารจัดการน้ำนานาชาติ ครั้งแรกในประเทศไทย “Water and Waste Management International Conference & Expo Thailand : Water for Life” ครั้งนี้ ลุล่วงไปได้ด้วยดี องค์ความรู้และข้อมูลที่ได้แลกเปลี่ยนกันจะสร้างคุณูปการต่อประเทศไทยและประเทศที่เข้าร่วมงานอย่างมาก

“ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งในส่วนของประเทศไทยและต่างประเทศที่ได้ทำงานกันอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมาเพื่อให้ประเทศไทยได้มีบทบาทอันสำคัญยิ่งในเวทีโลกในการจัดงานครั้งนี้ ตลอดการสัมมนา 2 วันได้รับความสนใจจากคนในแวดวงการบริหารจัดการน้ำทั้งไทยและต่างชาติ ดิฉันหวังว่าทุกคนจะได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับชุมชนและประเทศชาติต่อไป”ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว

ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า ความสำเร็จจากการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการจัดงานบริหารจัดการน้ำในระดับสากล และให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญน้ำที่เข้าร่วมงานสัมมนาต่างให้ความสนใจและสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ เพราะมองว่าเป็นโครงการที่จะสร้างประโยชน์ให้กับภาคการศึกษาและประเทศไทย ที่สำคัญคือการยกระดับเกษตรกรไทยให้มีองค์ความรู้เทียบเท่าสากล โดยมีการพัฒนาจนเกิดหลักสูตรสำคัญคือ “ชลกร” ที่เปิดสอนในระดับปวส.ในปัจจุบัน โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้ขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ผ่านวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี มาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ในพิธีปิดการสัมมนาเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น อบอวลด้วยมิตรภาพ ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ วิทยาการ และผู้สนใจด้านการบริหารจัดการน้ำ โดยพิธีการบนเวที มีบุคคลชั้นนำในวงการน้ำ ทั้งไทยและต่างประเทศ สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวสรุปองค์ความรู้ และพูดถึงความรู้สึกที่ได้รับตลอด 2 วันของการจัดงานด้วยความประทับใจที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้