29/03/2024

แลนด์สไลด์ด้วยศรัทธาประชาชน

 

 

นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

 

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่อาคารรัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพรรคเพื่อไทย  ได้นำพรรคฝ่ายค้านอีก 6 พรรคประกอบด้วย พรรคก้าวไกล  พรรคเสรีรวมไทย  พรรคประชาชาติ  พรรคเพื่อชาติ  พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์  ร่วมกันยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวม 11 คน ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

 

บุคคลทั้ง 11 คน ที่พรรคร่วมฝ่ายค้ายจะอภิปรายซักฟอกตามยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” นั้น  ส่วนที่เรียกว่าหัวประกอบด้วย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ส่วนที่เป็น”นั่งร้าน” 8 คนได้แก่  นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  และนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

ข้อกล่าวหา 6 ด้านที่ปรากฏอยู่ในญัตติคือ

1. ทำงานผิดพลาด บกพร่อง ล้มเหลว

2.จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ

3.ทุจริตหรือส่อทุจริต

4.ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา

5.ละเมิดสิทธิมนุษยชน

6.ทำลายระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา

The Leader Asia ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก่อนหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ  โดยถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คาดหวังผลแค่ไหน

นพ.ชลน่านกล่าวว่า  เดิมเราเคยมั่นใจว่าจะล้มรัฐบาลได้เลยโดยดูพรรคการเมืองที่แตกมาจากฝ่ายรัฐบาลว่าไม่เอากันแล้ว  แต่ปรากฏการณ์จากการโหวตเรื่องงบประมาณนั้นแม้จะหวังล้มด้วยมือในสภาเราก็ยังหวังอยู่  แต่ต้องหวังแบบเผื่อใจ  ทุกครั้งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแม้จะมีหลักฐานเด็ดขนาดไหน  เรื่องถึงขั้นยื่นปปช.เขาก็ยกมือให้กันได้

 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว

 

การอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะล้มรัฐบาลในสภาไม่ได้แต่จะเป็นการหวังล้มรัฐบาลด้วยศรัทธาประชาชน  เพราะเป็นการอภิปรายในปีสุดท้ายก่อนเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง  หากใช้ยุทธการนี้ในปีแรกย่อมไม่ได้ผล  และรัฐบาลชุดนี้หากหมดวาระเมื่อครบ 4 ปีในวันที่ 23 มีนาคม 2566  ต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน  แต่หากยุบสภาต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน ไม่เกิน 60 วัน

รัฐบาลอาจจะเลือกยุบสภาก่อนหมดวาระด้วยเหตุผลการย้ายส.ส.  เพราะยุบสภาต้องสังกัดพรรคภายใน 30 วัน  ถ้าครบวาระ การสังกัดพรรคต้อง 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง  การยุบสภาจะทำให้มีโอกาสกวาดส.ส.เข้าร่วมพรรคได้  นี่เป็นเหตุว่ารัฐบาลอาจจะไม่ถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566  สังเกตุอย่างที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่รู้ๆแต่แพลมออกมาว่า  หลังการประชุม APEC (เดือนพฤศจิกายน 2565)ค่อยยุบสภา  ซึ่งเป็นไปได้สูงมาก

เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้พรรคเพื่อไทยจะสู้ได้อย่างไร  การเลือกตั้งจะแลนด์สไลด์ได้จริงหรือ

นพ.ชลน่านกล่าวว่า  นี่คือโจทย์ใหญ่ของเราว่าคู่ต่อสู้เขาแข็งในเรื่องพวกนี้มากดังนั้นถ้าเราไปสู้ในมุมแข็งของเขาเราจะแพ้  เราไม่สามารถหาเงินได้เหมือนเขา  ถ้าเล่นเกมของเขาเราจะแพ้  ดังนั้นเราต้องเล่นเกมที่ไม่ใช่เกมที่เขาจะชนะ

พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการขณะนี้คือทางรอดทางออกของตัวเขาของประเทศ  จริงอยู่เขาอยากได้เงินแบบนี้แต่สิ่งที่เขาคิดไปข้างหน้า  ตัวเขาลูกหลานเขาจะออกจากการทำมาหากินแบบติดกับดักหนี้ได้อย่างไร  เราเปลี่ยนวิธีการสู้ด้วยเรื่องนโยบาย  ซึ่งอันนี้เป็นผลพวงที่เราเก่งมาแล้วตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน  ว่าเราทำให้เขาจับต้องนโยบายของเราได้  เราชี้ให้เห็นว่าถ้าคุณอยากออกจากวิกฤติ  คุณต้องตอบตัวเองว่า 8 ปีที่ผ่านมาคุณทุกข์ไหม

 

 

อะไรเป็นเครื่องยืนยัน  การเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ไง  สังเกตุไหมว่าสายประชาธิปไตยมาเพียบเลย  พรรคเพื่อไทยได้ สก.ถึง 20 คน  ถ้าเราไม่ถูกตัดสิทธิจะได้ 21 คน  มันส่งสัญญาณว่าเขาต้องการออกจากวิกฤติ  ไม่ใช่เฉพาะกทม.ที่เป็นเพียงจังหวัดหนึ่งก็จริง  แต่กทม. เป็นหัวใจของประเทศ  เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศ  เป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสาร  ทิศทางแนวทางของประเทศ  ลูกหลานต่างจังหวัดก็มาอยู่ที่กรุงเทพฯ  ภาพจำลองของประเทศอยู่ตรงนี้  ความคิดความอ่าน กระแสและความต้องการของประชาชนอยู่ที่กทม.

ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะไม่สู้ด้วยเงิน  จะสู้ด้วยความหวัง  สู้ด้วยสิ่งที่จะเป็นในอนาคตให้ได้  นั่นคือตัวนโยบาย  ทีมงาน ความมั่นใจ ความเชื่อมั่น  ประกอบกับศักยภาพของการสร้างเครือข่ายการทำพื้นที่ของเรา  การสื่อสารทางการเมืองที่ทำให้เขารู้และเข้าใจ  มีคำพูดว่าต่อให้คุณซื้อหัวละพัน  ถามชาวบ้านเอาไหม?.. เอา ! แต่ไม่เลือก  จะเลือกเพราะนโยบายพรรคเพื่อไทย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *