แลนด์สไลด์ด้วยศรัทธาประชาชน
นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ที่อาคารรัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพรรคเพื่อไทย ได้นำพรรคฝ่ายค้านอีก 6 พรรคประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคไทยศรีวิไลย์ ร่วมกันยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรวม 11 คน ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
บุคคลทั้ง 11 คน ที่พรรคร่วมฝ่ายค้ายจะอภิปรายซักฟอกตามยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” นั้น ส่วนที่เรียกว่าหัวประกอบด้วย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ส่วนที่เป็น”นั่งร้าน” 8 คนได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข้อกล่าวหา 6 ด้านที่ปรากฏอยู่ในญัตติคือ
1. ทำงานผิดพลาด บกพร่อง ล้มเหลว
2.จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ
3.ทุจริตหรือส่อทุจริต
4.ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา
5.ละเมิดสิทธิมนุษยชน
6.ทำลายระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
The Leader Asia ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ก่อนหน้าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คาดหวังผลแค่ไหน
นพ.ชลน่านกล่าวว่า เดิมเราเคยมั่นใจว่าจะล้มรัฐบาลได้เลยโดยดูพรรคการเมืองที่แตกมาจากฝ่ายรัฐบาลว่าไม่เอากันแล้ว แต่ปรากฏการณ์จากการโหวตเรื่องงบประมาณนั้นแม้จะหวังล้มด้วยมือในสภาเราก็ยังหวังอยู่ แต่ต้องหวังแบบเผื่อใจ ทุกครั้งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแม้จะมีหลักฐานเด็ดขนาดไหน เรื่องถึงขั้นยื่นปปช.เขาก็ยกมือให้กันได้
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
การอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะล้มรัฐบาลในสภาไม่ได้แต่จะเป็นการหวังล้มรัฐบาลด้วยศรัทธาประชาชน เพราะเป็นการอภิปรายในปีสุดท้ายก่อนเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง หากใช้ยุทธการนี้ในปีแรกย่อมไม่ได้ผล และรัฐบาลชุดนี้หากหมดวาระเมื่อครบ 4 ปีในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ต้องเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่หากยุบสภาต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน ไม่เกิน 60 วัน
รัฐบาลอาจจะเลือกยุบสภาก่อนหมดวาระด้วยเหตุผลการย้ายส.ส. เพราะยุบสภาต้องสังกัดพรรคภายใน 30 วัน ถ้าครบวาระ การสังกัดพรรคต้อง 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง การยุบสภาจะทำให้มีโอกาสกวาดส.ส.เข้าร่วมพรรคได้ นี่เป็นเหตุว่ารัฐบาลอาจจะไม่ถึงวันที่ 23 มีนาคม 2566 สังเกตุอย่างที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่รู้ๆแต่แพลมออกมาว่า หลังการประชุม APEC (เดือนพฤศจิกายน 2565)ค่อยยุบสภา ซึ่งเป็นไปได้สูงมาก
เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้พรรคเพื่อไทยจะสู้ได้อย่างไร การเลือกตั้งจะแลนด์สไลด์ได้จริงหรือ
นพ.ชลน่านกล่าวว่า นี่คือโจทย์ใหญ่ของเราว่าคู่ต่อสู้เขาแข็งในเรื่องพวกนี้มากดังนั้นถ้าเราไปสู้ในมุมแข็งของเขาเราจะแพ้ เราไม่สามารถหาเงินได้เหมือนเขา ถ้าเล่นเกมของเขาเราจะแพ้ ดังนั้นเราต้องเล่นเกมที่ไม่ใช่เกมที่เขาจะชนะ
พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการขณะนี้คือทางรอดทางออกของตัวเขาของประเทศ จริงอยู่เขาอยากได้เงินแบบนี้แต่สิ่งที่เขาคิดไปข้างหน้า ตัวเขาลูกหลานเขาจะออกจากการทำมาหากินแบบติดกับดักหนี้ได้อย่างไร เราเปลี่ยนวิธีการสู้ด้วยเรื่องนโยบาย ซึ่งอันนี้เป็นผลพวงที่เราเก่งมาแล้วตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ว่าเราทำให้เขาจับต้องนโยบายของเราได้ เราชี้ให้เห็นว่าถ้าคุณอยากออกจากวิกฤติ คุณต้องตอบตัวเองว่า 8 ปีที่ผ่านมาคุณทุกข์ไหม
อะไรเป็นเครื่องยืนยัน การเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ไง สังเกตุไหมว่าสายประชาธิปไตยมาเพียบเลย พรรคเพื่อไทยได้ สก.ถึง 20 คน ถ้าเราไม่ถูกตัดสิทธิจะได้ 21 คน มันส่งสัญญาณว่าเขาต้องการออกจากวิกฤติ ไม่ใช่เฉพาะกทม.ที่เป็นเพียงจังหวัดหนึ่งก็จริง แต่กทม. เป็นหัวใจของประเทศ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศ เป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสาร ทิศทางแนวทางของประเทศ ลูกหลานต่างจังหวัดก็มาอยู่ที่กรุงเทพฯ ภาพจำลองของประเทศอยู่ตรงนี้ ความคิดความอ่าน กระแสและความต้องการของประชาชนอยู่ที่กทม.
ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะไม่สู้ด้วยเงิน จะสู้ด้วยความหวัง สู้ด้วยสิ่งที่จะเป็นในอนาคตให้ได้ นั่นคือตัวนโยบาย ทีมงาน ความมั่นใจ ความเชื่อมั่น ประกอบกับศักยภาพของการสร้างเครือข่ายการทำพื้นที่ของเรา การสื่อสารทางการเมืองที่ทำให้เขารู้และเข้าใจ มีคำพูดว่าต่อให้คุณซื้อหัวละพัน ถามชาวบ้านเอาไหม?.. เอา ! แต่ไม่เลือก จะเลือกเพราะนโยบายพรรคเพื่อไทย